Author: administratoir

ในยุคปัจจุบันมีอาชีพใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นคือ “อาชีพ Youtuber” ซึ่งจัดว่าเป็นอาชีพที่มาแรงติดอันดับ 1 ใน 3 ของเด็กในปี 2563 กันเลยทีเดียว! เนื่องจาก Youtuber ถูกมองว่าเป็นอาชีพที่ได้ทำสิ่งที่ชอบ มีความเป็นอิสระสูง มีชื่อเสียง และหากประสบความสำเร็จจนได้รับความนิยมก็สามารถสร้างรายได้ได้อย่างมากมาย รวมถึงอาชีพนี้ยังเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น ผ่านคอนเทนท์ที่เหล่า Youtuber ได้สร้างสรรค์ขึ้น แต่กว่าจะมาเป็น Youtuber ได้เนี่ย ต้องมีการเตรียมตัวอะไรบ้างนะ? วันนี้พี่ก็เลยมี Step ในการเป็น Youtuber มาฝากน้อง ๆ กัน สำรวจสิ่งที่ตัวเองชอบ การได้ทำสิ่งที่ชอบจะทำให้เรามีใจรักและทุ่มเทในสิ่งที่ทำมากขึ้น ยิ่งการที่ต้องทำ Content นั้นซ้ำ ๆ  การที่เราได้ทำสิ่งที่รัก อยู่กับสิ่งที่ชอบ จึงเป็นเรื่องที่ดีและเป็นแรงผลักดันให้เราอยากลุกขึ้นมาทำในทุก ๆ วัน แต่ในกรณีที่น้องๆบางคนยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร ให้ลองหาแรงบันดาลใจต่างๆ อาจดูจากช่องของ Youtuber คนอื่นๆ ดูว่าเขาทำอะไรกันบ้าง แล้วเราสามารถนำมาดัดแปลงได้หรือไม่ ที่สำคัญอย่าลืมที่จะลองลงมือทำนะ Content เป็นหลักสำคัญในการนำเสนอความน่าสนใจของคลิปวีดิโอ หาก Content…

1. เลือกสถาบัน คณะ สาขาที่อยากเข้า สำหรับน้องม.6 ที่เป้าหมายชัดเจนแล้ว ติ๊กถูกข้อนี้ได้เลย แต่สำหรับน้องที่ยังไม่รู้จักตัวเอง ไม่รู้จะเข้าคณะหรือสาขาอะไร ลองนั่งทบทวนตัวเองก่อนเดินหน้าต่อ อย่าได้ทำแบบคะแนนถึงคณะไหนก็เข้าเชียวครับ กลับไปศึกษาข้อมูลอาชีพที่จะเป็นอนาคตของเราให้ดี หากสับสนไม่รู้ว่าจะไปทางไหนต่อ ลองอ่านบทความนี้แล้วหาเส้นทางของตัวเองให้เจอให้ได้ครับ 7 วิธีทดสอบรักแท้ คณะที่เลือก ใช่คณะที่ใช่ !! จริงเหรอ? เข้าคณะอะไรดี? ใช้ 4 ขั้นตอนนี้ ค้นพบคณะที่ใช่ชัวร์! 2. วางแผนการสมัคร TCAS เมื่อเป้าหมายเราชัดเจนแล้ว ก็จะทำให้เส้นทางการสอบของเราชัดเจนไปด้วย โดยในระบบการคัดเลือกนักศึกษาผ่าน TCAS จะมีทั้งหมด 5 รอบ หากน้องยังไม่เข้าใจว่าแต่ละรอบคืออะไร แตกต่างกันอย่างไร เราควรจะสมัครรอบไหน ลองอ่านบทความนี้เลย เข้าใจความแตกต่างของ TCAS ทั้ง 5 รอบ พี่ขอเสริมฝากน้องไว้ว่า รอบ Portfolio ใน TCAS63 รอบ 1 ถึงแม้น้องไม่มีผลงานอะไร ก็อย่าเพิ่งยอมแพ้ไม่สมัครไปก่อนครับ เพราะในรอบนี้จะเป็นรอบที่น้องได้เปิดประสบการณ์ของตัวเอง ได้เข้าไปพูดคุยกับคณะกรรมการของแต่ละคณะ…

1. กิจกรรมรับน้อง เพื่อเป็นการสานสัมพันธ์ทำความรู้จักกันระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง หลายๆ คณะ มหาวิทยาลัยจะจัดกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อให้ทุกคนได้ทำความรู้จักและใกล้ชิดกัน และสนิทกันมากขึ้นกว่าเดิม 2. กิจกรรมเฉลยสายรหัส เฉลยพี่เนียน กิจกรรมเฉลยสายรหัส เป็นกิจกรรมย่อยที่มาจากการรับน้องอีกทีหนึ่ง น้องๆ จะมีพี่ๆ รหัสตามรหัสนักศึกษาที่เราได้ จำนวนพี่รหัสก็ขึ้นอยู่กับความเก่าแก่ของคณะและมหาวิทยาลัยที่เราเลือกเลย โดยในตอนแรก รุ่นพี่ของเราอาจยังไม่บอกก่อนว่าเค้าเป็นพี่รหัสเรานะ แต่เราต้องไปตามหาตามปริศนาที่พี่ทิ้งไว้ให้ กิจกรรมพี่เนียน จะมีรุ่นพี่ปลอมตัวมาเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับเรา ร่วมทำกิจกรรม โดนการรับน้องเช่นเดียวกับที่น้องๆ เจอ และตอนท้ายก็จะมีการตามหาว่าใครกันที่เป็นพี่เนียน น้องๆ จะรู้ตัวจับตัวพี่เนียนได้หรือไม่ 3. ปรับพื้นฐานภาษา หลายๆ คณะจะมีการจัดปรับพื้นฐานทางวิชาการ เพื่อที่ทุกคนเข้ามาเรียนจะสามารถเรียนไปพร้อมกันได้ในระดับเดียวกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง 4. ปฐมนิเทศ กิจกรรมนี้ ส่วนใหญ่ทางมหาวิทยาลัยจะเป็นแม่งานในการจัดปฐมนิเทศใหญ่ให้กับนักศึกษาที่เข้ามาใหม่ทุกคนในปีนั้น และทางคณะก็จะมีการปฐมนิเทศย่อยสำหรับนักศึกษาในคณะของตัวเองอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการต้อนรับ รับขวัญ และให้ข้อมูลสำคัญที่น้องๆ ต้องรู้ก่อนเริ่มเรียน 5. Freshy Night บางคณะ หรือมหาวิทยาลัยจะมีการจัดคอนเสิร์ต จัดงานเลี้ยงเพื่อต้อนรับน้องๆ ปี 1 และในกิจกรรมนี้จะมีการประกวดดาวเดือนมหาวิทยาลัยร่วมอยู่ด้วย เรียกว่าเป็นคืนที่น้องจะไปเชียร์เพื่อนดาวเดือน และสนุกไปกับดนตรี แสงสี และเสียง…

รู้ตัวว่าเป็นคนขี้เกียจมากกกกก แต่ก็อยากสอบติด งั้นลองมาจัด “ตารางความขี้เกียจ” กันดูมะ ในหนึ่งวันเราจะมีโควต้าสามารถขี้เกียจได้วันละ 2 ชั่วโมง แต่ก็ต้องอ่านหนังสือให้ได้วันละ 2 ชั่วโมงเหมือนกัน เอาซี้!!! . ⏰ 8PM-9PM สมมติว่าเริ่มนับตอนสองทุ่มให้ประเดิมด้วยความขี้เกียจก่อนเลยหนึ่งชั่วโมงเต็ม เย้ๆๆ #กฎเหล็กของชั่วโมงนี้ ก็คือต้องขี้เกียจจริงๆ ไม่ว่าจะขี้เกียจเล่นมือถือ ขี้เกียจเล่นเกม ขี้เกียจดูซีรี่ย์ ห้ามทำอะไรทั้งนั้น ทำได้แค่นั่งเปื่อย นอนเปื่อยเท่านั้นนะจ้ะ . ⏰ 9PM-10PM พอสามทุ่มปุ๊ปต้องหยุดขี้เกียจและเริ่มอ่านหนังสือทันที เราจะมีเวลาอ่าน 25 นาที พัก 10 นาที และกลับไปอ่านต่ออีก 25 นาทีจนถึงเวลาสี่ทุ่ม . ⏰ 10PM-11PM ยินดีต้อนรับกลับเข้าสู่ชั่วโมงแห่งความขี้เกียจอีกครั้ง นั่งเปื่อย นอนเปื่อยไปเลยจ้า 1 ชั่วโมงเต็ม ห้ามเล่นมือถือ ห้ามเล่นเกม ห้ามดูซีรี่ย์เหมือนเดิม อิอิ . ⏰ 11PM-12PM ชั่วโมงสุดท้ายของการอ่านหนังสือให้ทำแบบเดิม อ่าน 25 / พัก 10 / อ่าน 25 นาที…

ไหน! สารภาพมาซะดีๆ ใครเป็นคนขี้ลืม อ่านแล้วไม่จำบ้างครับ ลองนำเทคนิคการจำ 8 วิธีนี้ไปใช้ ไม่จำก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว 1. จดให้เรียบ เวลาที่จด เราจะเพิ่มแอคติ้งของการจำเพิ่มขึ้นมา จากที่แค่คิดอยู่ในหัว เปลี่ยนมาเป็นขีดเขียนในมืออีกทาง จากที่แค่ฟังทางหู ให้เขียนสิ่งที่ฟังลงกระดาษอีกครั้ง การเขียนทำให้เราได้ทบทวนสิ่งนั้น และที่สำคัญเราจะกลับมาทบทวนทีหลังได้โดยที่ส่วนสำคัญทุกอย่างยังคงอยู่ครบ อย่าลืมพกกระดาษปากกาไปด้วยทุกที่ เขียนทุกครั้งที่มีโอกาส เพิ่มทักษะการจำไปอีกขั้นนะครับ . 2. แปะโพสอิท ความสามารถสำคัญของโพสอิทคือ !!! แบ่งเป็นสีๆ ได้ เขียนแล้วแปะ เสร็จแล้วดึงทิ้ง เพราะธรรมชาติของโพสอิทเราสามารถแปะไว้ในที่ที่เราเห็นบ่อยๆ ได้ เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์ หลังโทรศัพท์มือถือ บนโต๊ะหนังสือ บนตู้เย็น หากเราจำคำศัพท์คำไหนไม่ได้ ลองเอาคำศัพท์ไปแปะไว้บนตู้เย็น นึกคำแปลไม่ได้ก็ห้ามกินขนม หากจำได้แล้วก็ดึงออกเปลี่ยนคำใหม่ ง่ายนิดเดียว และโพสอิทยังช่วยจัดการสิ่งต่างๆ ได้ดี เช่น สิ่งที่ต้องทำ สิ่งที่ต้องซื้อ ของที่ต้องจัด โดยเฉพาะ เดดไลน์ กำหนดการต่างๆ อย่าลืมเขียนแปะโพสอิทไว้เชียว เพราะถ้าลืมขึ้นมาจะเป็นเรื่อง . 3….