เปลี่ยนสังคม จากมัธยมสู่มหา’ลัย
| | |

เปลี่ยนสังคม จากมัธยมสู่มหา’ลัย

——————————- วัยมัธยมเป็นช่วงเวลาโปรดของใครหลาย ๆ คน เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์หลาย ๆ รูปแบบ ทำให้ผู้คนเกิดความผูกพันธ์กับช่วงเวลานี้เป็นพิเศษ . การเปลี่ยนผ่านช่วงเวลาจากมัธยมเข้าสู่รั้วมหา’ลัย จึงกลายเป็นความกังวลที่เกิดขึ้นและยากที่จะเผชิญหน้ากับมัน เมื่อเวลาค่อย ๆ ผ่านไปทีละวัน.. ความกังวลนั้นก็ค่อย ๆ กลายเป็นความกลัว . แต่ชีวิตเรายังต้องเจอการเปลี่ยนแปลงอีกนับไม่ถ้วน และเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไร จงเชื่อมั่นในตัวเองว่าจะก้าวข้ามช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้ อย่ากลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิดเพราะจริง ๆ มันอาจจะดีกว่าที่เราคิด . ใช้ชีวิตในโลกที่กว้างขึ้น ด้วยความคิดที่โตขึ้น เป็นคนที่พร้อมปรับตัวกับผู้คนแปลกหน้า สถานที่ที่แปลกไป เปิดใจและเรียนรู้ชีวิตในวันข้างหน้าที่จะมาถึงนะ.. ——————————-

ถึงจะเป็นนักเรียนแต่ก็เครียดไม่แพ้ผู้ใหญ่
| | |

ถึงจะเป็นนักเรียนแต่ก็เครียดไม่แพ้ผู้ใหญ่

“เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อยจริงๆ นะ” . ในสายตาผู้ใหญ่หลายคนอาจจะมองว่าการเป็นนักเรียนนั้นสบาย ไม่ต้องเครียดเรื่องปัญหาชีวิตยากๆ เหมือนที่ผู้ใหญ่เป็น แต่ความเป็นจริงแล้ววัยรุ่นเองก็ต้องเจอความกดดันต่างๆนาๆ และมีความเครียดสะสมไม่แพ้ผู้ใหญ่วัยทำงานเหมือนกัน . สาเหตุสำคัญอันดับหนึ่ง ที่ทำให้วัยรุ่นอยู่ในภาวะเสียศูนย์คือ “การถูกประเมิน” ซึ่งรู้มั้ยคะว่ากว่านักเรียน 1 คน จะสอบเข้ามหาลัยได้เนี่ย ต้องผ่านการสอบมากมายไม่ต่ำกว่า 112 ครั้ง เรียกได้ว่าต้องถูกประเมินเป็นชีวิตประจำวันเลยแหละ ดังนั้นช่วงวัยอย่างนักเรียนที่ต้องทำทั้งการบ้าน กิจกรรม เรียนพิเศษ และการสอบอีกเป็นร้อยครั้ง ไม่แปลกเลยที่ใครๆ ก็โอดครวญว่า “เป็นวัยรุ่นยุคนี้นี่มันไม่ง่ายเลยจริงๆ” วันนี้พี่อุ๊เลยจะมาแนะนำเทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้น้องๆ จัดการชีวิตการเรียนได้ง่ายขึ้นค่ะ ————————————- เทคนิคที่ 1: ให้วันอาทิตย์เป็นวันวางแผน ! ลองกำหนดให้วันอาทิตย์คือวันวางแผนดูนะ แล้วในวันนั้นก็ตัดสินใจว่าสิ่งไหน คือสิ่งจำเป็นต้องทำก่อนหลัง และแบ่ง Priority เป็น 3 ระดับให้ง่ายต่อการตัดสินใจแบบนี้ค่ะ สิ่งที่ “ต้อง” ทำให้เสร็จ (เช่น อ่านหนังสือเตรียมสอบวิชาวิทยาศาสตร์วันพุธ) สิ่งที่ “ควร” ทำให้เสร็จ (คือสิ่งที่สามารถรอได้ เช่น ซ้อมวิ่งเพื่อเตรียมแข่งงานกีฬาสี) สิ่งที่…

มั่นใจในตัวเอง ว่าเราทำได้
| | |

มั่นใจในตัวเอง ว่าเราทำได้

ประโยคง่าย ๆ ที่เต็มไปด้วยพลังมหาศาล.. บางทีโลกมันก็โหดร้ายซะจนเราหมดแรง หมดกำลังใจจะสู้ต่อ พอแรงใจจากตัวเองหมด บางทีมันก็เคว้งเหมือนกันนะ . การมีคนรอบข้างที่ดี มันช่วยเราได้เยอะเลยเวลาที่เราอ่อนล้า บางทีเราเชียร์อัพตัวเองมามากพอแล้ว จนเราหมดหนวิธีที่จะให้กำลังใจตัวเองต่อ การได้รับคำปลอบประโลมจากคนที่เรารักมันกลับเป็นแรงพลังมหาศาล เป็นแรงที่บางครั้งเราไม่เคยคาดคิดว่ามันจะช่วยเราได้ขนาดนี้ . “เชื่อสิ แกทำได้” ประโยคง่าย ๆ ที่ฟังแล้วอยู่ดี ๆ เราก็เชื่อคำพูดเขาเฉยเลยว่าเราทำได้ อยู่ดี ๆ ก็มั่นใจ . “แกเก่งจะตาย ไหวอยู่แล้ว” จากที่คิดว่าไม่ไหว อยู่ ๆ ก็ไหวขึ้นมาเฉย ลูกฮึดมาจากไหนไม่รู้ . “ทุกอย่างมันจะดีจริง ๆ” จากที่คิดว่าทุกอย่างมันแย่มาตลอด ก็รู้สึกว่าอดทนอีกนิด อะไร ๆ ก็น่าจะดีขึ้นแน่ ๆ . แค่ประโยคธรรมดา แต่พลังมันแสนจะวิเศษ เหมือนมันช่วยเยียวยาเราในแบบที่เราเองก็ไม่รู้ตัว เพราะงั้นการมีคนรอบข้างที่ดีที่เป็นพลังบวกของเรามันสำคัญมากจริง ๆ . ถ้ามีแล้วก็รักษาคนเหล่านั้นไว้ให้ดี และคอยเติมพลังบวกให้กันไปเรื่อย ๆ ลองใช้โอกาสนี้ขอบคุณคนเหล่านั้นดูก็ดีนะ . ขอบคุณบทความดี…