ข้อมูล ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2566
Xinytarnn & Ju_ne_nis TCASter
รีวิวคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี เอก การบัญชีธุรกิจแบบบูรณาการ (หลักสูตรตรีควบโท)
เพราะการเรียนบัญชีและธุรกิจไม่ใช่แค่การท่องจำ…! ใครที่รู้สึกเบื่อกับการเรียนแบบท่องจำตามเนื้อหาในหนังสือยกมือขึ้น!!! น้อง ๆ คนไหนชอบลงมือทำและชอบการประยุกต์ใช้เนื้อหาในบทเรียนกับชีวิตจริง มาพบกับบทความรีวิวคณะบัญชี 5 ปี มธ. ทางนี้ด่วน ๆ จ้าา
.
แนะนำตัว
– สวัสดีค่าา พี่ชื่อ จูน นะคะ เรียนอยู่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี หลักสูตรตรีควบโท หรือหลักสูตร 5 ปี ธรรมศาสตร์ เอกบัญชี เรียนที่ท่าพระจันทร์ค่ะ
.
ทําไมถึงเลือกเรียนคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี หลักสูตรตรควบโท ?
– เพราะชอบตัวเลขและการคำนวณตั้งแต่เด็ก ตอนม.ต้นเคยลังเลระหว่างสายวิศวะกับสายบัญชี แต่พอช่วงม.ปลายเรียนห้องเรียนวิศว์-วิทย์ของรร.ดรุณสิกขาลัย ซึ่งได้ทำโปรเจคทั้งทำวิจัยในห้องแลปและเข้าช็อปวิศวะใช้เครื่องมือต่างๆ ทำให้รู้ว่าตัวเองไม่เหมาะกับสายวิทย์ ประกอบกับมีโอกาสได้แข่งเพชรยอดมงกุฎเศรษฐศาสตร์ ทำให้รู้ว่าตัวเองมีความสนใจในด้านการเงินด้วย เลยเบนเข็มไปทางธุรกิจและด้านบัญชีที่ยังคงมีความเกี่ยวข้องกับตัวเลข นอกจากนี้ยังตัดสินใจเพราะคณะสายนี้สามารถทำอาชีพได้หลากหลายและมีโอกาสเติบโตในอนาคตค่ะ
– ส่วนสาเหตุที่เลือก หลักสูตรตรีควบโท เพราะอ่านเจอว่าหลักสูตรนี้มีแนวคิดแบบ project-based learning ซึ่งเป็นการเรียนรู้จากการลงมือทำ ตรงกับความชอบของตัวเองที่ไม่ชอบการเรียนตามตำราเฉย ๆ ชอบการได้ลองลงมือทำจริง ๆ ค่ะ
.
มีการหาข้อมูลในการเข้าคณะยังไงบ้าง ?
– ค้นหาจากรีวิวในอินเตอร์เน็ต อ่าน blog ต่าง ๆ และดูรีวิว career path (เส้นทางอาชีพ) จากรุ่นพี่ในทวิตเตอร์ค่ะ
.
มีการเตรียมสอบยังไงบ้าง ?
– ตอนนั้นต้องใช้คะแนน GAT และ PAT1(ข้อสอบวัดความถนัดทางคณิตศาสตร์) หรือไม่ก็วิชาสามัญคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สังคมศึกษา ซึ่งเปอร์เซ็นต์ จะหนักที่คณิตศาสต์และภาษาอังกฤษ พี่เลยเน้นเตรียม 2 วิชานี้ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ขึ้นม.6 โดยเรียนพิเศษเก็บเนื้อหาม.ปลายให้ครบแล้วตะลุยโจทย์ปีเก่า ๆ สลับไปมาระหว่างเลขกับอังกฤษ เวลาทำข้อสอบแต่ละชุดก็จะจดคะแนนไว้และจดเรื่องที่ผิดบ่อยหรือทำไม่ได้ จากนั้นก็กลับไปทวนเนื้อหากับทำโจทย์เรื่องนั้นโดยเฉพาะ พอเว้นช่วงได้สักพักก็ลองกลับมาทำข้อสอบชุดเดิมใหม่ ถ้าเริ่มรู้สึกเครียดก็หยุดอ่านแล้วพักผ่อนบ้าง วนอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ส่วนวิชาภาษาไทยกับสังคมใช้การอ่านหนังสืออย่างเดียว ไม่ได้ทบทวนมาก แค่เก็งแนวแล้วจำเนื้อหาแต่ละเรื่องคร่าว ๆ เนื่องจากไม่ถนัดสองวิชานี้และน้ำหนักคะแนนสองวิชานี้น้อย เลยตั้งเป้าให้ได้ไม่ต่ำกว่า 60 เต็ม 100
.
คณะนี้เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง ?
– ก่อนอื่นคณะนี้ใช้เวลาเรียน 5 ปี แบ่งเป็นปริญญาตรี 3 ปีครึ่ง และปริญญาโท 1 ปีครึ่ง ซึ่งไม่บังคับเรียนป.โท จบตรีแล้วจะไปทำงานเลยก็ได้ พี่ก็จะเริ่มเรียนตั้งแต่ภาพรวมขององค์กรธุรกิจ ลักษณะขององค์กรเป็นแบบใด การอ่านงบการเงินเพื่อทำความเข้าใจการดำเนินงานธุรกิจ การวิเคราะห์ตลาด ตัวอย่างงานกลุ่มก็จะมีการเลือกบริษัทมาวิเคราะห์ตอนช่วงปี 2 เป็นงานที่ท้าทายดี ต้องหาข้อมูลเยอะมาก
– ต่อไปก็มีเรียนการวิเคราะห์ปัญหาเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ ตลอดจนสร้างแผนธุรกิจ (business plan) ที่แก้ปัญหาหรือทำให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมาย แล้วนำมาเสนอต่อผู้ประกอบการจริง ซึ่งก็จะได้ พัฒนา soft skill อย่างต่อเนื่อง เช่น ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น (มีงานกลุ่มเยอะมาก ๆ มีทุกเทอม อย่างน้อยเทอมละ 1 วิชา) ทักษะการนำเสนองาน(ใครไม่ถนัดไม่ต้องกลัว ได้ทำบ่อย ๆ ก็จะรู้สึกชินกับมันไปเอง55555) ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลรวมถึงการสื่อสารให้ผู้ฟังเข้าใจ เป็นต้น
– นอกจากนี้ก็มีเรียนกฎหมายธุรกิจ ซึ่งอาจารย์สอนสนุกมาก ทำให้เห็นภาพว่ากฎหมายมีความเชื่อมโยงกับธุรกิจหรือการดำเนินชีวิตยังไง ฟังอาจารย์เล่าเพลิน ๆ แต่ได้ความรู้เยอะมาก มีเรียนภาษีทั้งภาษีบุคคลธรรมดา การยื่นภาษีและข้อยกเว้นต่าง ๆ และภาษีนิติบุคคล ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีภาษาที่ 3 ให้เลือกเรียนด้วยนะ !
.
สิ่งที่น่าสนใจของคณะนี้ ?
– ความน่าสนใจก็คือการได้ทำงานกลุ่มบ่อยมาก ซึ่งแต่ละวิชาก็จะมีความเข้มข้นต่างกัน ทั้งงานกลุ่มที่ตอบคำถามสั้น ๆ ในห้องไปจนถึงงานที่ใช้เวลาทำตลอดเทอม ทำให้ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับเพื่อนบ่อย ได้มุมมองใหม่ ๆ และมีความกล้าในการนำเสนอมากขึ้น
อ้อ ! อีกอย่างที่น่าตื่นเต้นคือ ปี 2 มีทำแผนธุรกิจที่ได้ pitch กับเจ้าของธุรกิจจริง ๆ ได้ฟังความเห็นจากเขาจริง ๆ แล้วจะมีการจัด rank คะแนนของแต่ละทีม แข่งกันกับเพื่อนในรุ่น ลุ้นสุด ๆ ส่วน ปี 3 จะมีเกมจำลองธุรกิจที่สมมติเราเป็นผู้ประกอบการ เมื่อเจอกับสถานการณ์แต่ละแบบจะรับมือยังไง ประมาณนี้ค่ะ
.
มีการฝึกงานไหม ? การฝึกงานแบ่งเป็นสายงานไหนได้บ้าง ?
– มีบังคับฝึกงานตอนปี 3 เทอม 2 ส่วนใหญ่ฝั่งบัญชีก็จะไปออดิท big4 กันค่ะ
.
จบมาทำอาชีพอะไรได้บ้าง ?
– ถ้าบัญชีจ๋าก็ไปได้ทั้งฝั่ง corporate ซึ่งมีตำแหน่งทั้งนักบัญชีที่มีหน้าที่รวบรวมเอกสารทางการเงิน บันทึกรายการและจัดทำรายงานทางการเงิน กำหนดนโยบายทางการเงินของบริษัท และออดิทภายใน (internal audit) หรือที่ส่วนใหญ่สนใจกันก็ผู้ตรวจสอบบัญชีภายนอก (external audit) บริษัทที่ดัง ๆ ในไทยก็มี big4 ส่วนถ้าถนัดด้านภาษีก็มี tax consult, tax specialist แต่ช่วงป.โทถ้าใครเลือกเอก marketing ก็สามารถผันตัวไปสายอื่นได้ เช่น การตลาด ได้ค่ะ
.
สิ่งที่อยากบอกน้องๆ ถ้าอยากเข้าคณะนี้ต้องเตรียมตัวเจออะไรบ้าง ?
– เจองานหนักค่ะ !!! หยอกๆ… แต่ไม่ต้องกลัว พอทำเสร็จแล้ว มันก็สนุกดี ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างเลย ส่วนการเตรียมตัว ความจริงแล้วก็ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก เรียน ๆ ไปเดี๋ยวก็ปรับตัวได้เอง ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถน้องๆค่ะ55555 ถ้าให้แนะนำก็คงเป็นเรื่องของการบริหารเวลา เพราะด้วยความที่คณะมีงานกลุ่มเยอะ ช่วงเย็นหลังเลิกเรียนของแต่ละวันก็จะใช้ไปกับงานกลุ่ม ช่วงไหนที่ใกล้ Deadline ก็อาจจะเดือดหน่อย คุยงาน 2-3 ชม.เลยเป็นเรื่องปกติค่ะ ทำใจไว้เลย5555 ถ้าน้อง ๆ มีการแบ่งเวลาที่ดี งานก็จะไม่ชนกันทำให้ไม่เครียดมาก จะได้มีเวลาพักผ่อนกับหางานอดิเรกทำด้วย
.
ความรู้สึกหลังจากที่ได้มาเรียนที่นี่ ?
– ก็ดีค่ะ สภาพแวดล้อมดี ที่ท่าพระจันทร์ไม่กว้างมาก เดินได้ทั่วถึงทุกคณะค่ะ5555 ตอนเย็นก็ข้ามฝั่งไปกินข้าวที่วังหลังได้ อาคารเรียนก็ดูดี ห้องเรียนกว้าง น่าเรียน เพื่อนในคณะแต่ละรุ่นมีประมาณไม่เกิน 120 คน ก็จะคุ้นหน้าคุ้นตากันค่ะ
.
ให้กำลังใจน้องๆ ที่อยากเข้าคณะนี้ 🙂
– ขอให้น้อง ๆ โชคดีกับการสอบและติดคณะตามที่ตั้งใจไว้นะคะ ไม่ต้องกดดันตัวเองมาก ค่อย ๆ อ่าน ค่อย ๆ ทวน ทำความเข้าใจเนื้อหาให้ดี ช่วงก่อนสอบก็อย่าโหมอ่านหนังสือหนักเกินไป มีเวลาก็พักผ่อนคลายเครียดบ้างนะ สู้ ๆ น้าาา
.
สำหรับใครที่สนใจข้อมูลดี ๆ แบบนี้อีกก็อย่าลืมติดตามผ่านเว็บไซต์ TCASter รวมถึงใครที่ต้องการทราบข้อมูลหรือคอนเทนต์น่าสนใจเกี่ยวกับการเข้ามหาวิทยาลัยก็สามารถติดตามผ่านทางช่องทางอื่น ๆ ของ TCASter ได้เลย
Facebook, Youtube, Instagram, Twitter, Tiktok