รีวิวการเตรียมตัวสอบ PAT7.1 (ภาษาฝรั่งเศส) จากประสบการณ์ตรงของ‘พี่ว่าน’ #DEK63
“ถ้าเราทำโจทย์เยอะ ๆ ก็จะพอรู้เหมือนกันว่าต้องเน้นเรื่องไหนบ้าง
ขอเน้นว่าทำโจทย์สำคัญมาก ๆ ทั้งแบบฝึกหัด ทั้งข้อสอบเก่าเลย“
…
” เราอยากบอกน้อง ๆ ว่า จริง ๆ แล้วข้อสอบมันไม่น่ากลัวเลย
แต่ขอให้น้อง ๆ เตรียมตัวไปให้พร้อมที่สุดเท่าที่จะทำได้
ให้คิดว่าซะว่าถ้ามองกลับมาในช่วงเวลาการสอบเข้าจะไม่เสียดายเลย“
– พี่ว่าน รุ่นพี่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬา การเตรียมตัวสอบ PAT7.1 –
การสอบเข้าใกล้เข้ามาทุกที ทำยังไงดีกับวิชาภาษา! ท่องศัพท์เท่าไหร่ ก็ยังจำไม่ได้สักที ไหนจะพาร์ท Reading ที่ต้องทำโจทย์ให้ทันเวลาอีก! เครียดจัง!…ไม่ต้องห่วง! วันนี้TCASterขอนำเสนอ ‘รีวิว PAT7.1 จากรุ่นพี่ตัวจริง’ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัว เคล็ดลับต่าง ๆ รวมไปถึงข้อสอบจริง! บอกเลยว่าสายภาษา ไม่ควรพลาด!
สวัสดีค่ะ แนะนำตัวให้น้อง ๆ รู้จักหน่อยฮะะ
สวัสดีค่ะ เราชื่อว่าน จบมัธยมจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สายศิลป์-ฝรั่งเศส ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ค่ะ
ก่อนจะเข้าเรื่อง..ขอถามนอกเรื่องนิดนึง ทำไมพี่ถึงเลือกเรียนภาษาฝรั่งเศสคะ?
คือ ตั้งแต่เรารู้ตัวว่าเราจะมาสายภาษาเราก็ปักหลักที่ภาษาฝรั่งเศสเลยค่ะ5555 หลัก ๆ คือเราชอบวัฒนธรรมของเขาค่ะ รู้สึกว่าอยากพูดได้ อยากอ่านออก อยากเรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างที่เกี่ยวกับประเทศนี้ ตอนนั้นเลยไม่ได้ลังเลกับภาษาอื่นเลยค่ะ รู้สึกว่าเราชอบมาก ๆ เรียนแล้วน่าจะมีความสุข
อยากรู้ว่าพอมันเป็นวิชาที่พี่ชอบแบบนี้แล้ว พี่เตรียมตัวสอบยากมั้ย หรือว่าพอเราชอบก็เลยทำได้อยู่แล้ว ชิว ๆ
ตอบตรง ๆ เลยว่ายากค่ะ555555 ไม่ได้ชิวเลย คือ ถึงแม้มันจะเป็นภาษาที่เราชอบก็จริง แต่พอเราเข้ามาเรียนจริง ๆ แล้ว ก็เข้าใจว่าเฮ้ย!55555 มันยากกว่าที่คิดนะ อาจจะด้วยความที่มันค่อนข้างซับซ้อนกว่าภาษาอังกฤษด้วย และด้วยความที่เราไม่มีพื้นฐานมาก่อนด้วย เลยทำให้เราอาจจะงง ๆ ในช่วงเริ่มต้น ซึ่งพอมันงงในช่วงการเรียนพื้นฐานของมันแล้วก็จะพากันงงไปหมดเลยค่ะ5555555 ดังนั้นตอนเราเตรียมตัวสอบ PAT7.1 ก็เลยไม่ได้ง่ายเลย ต้องทุ่มเทมาก ๆ เลยค่ะ
มาถึงตรงนี้ ก็ต้องถามต่อเลยว่าพี่เริ่มเตรียมตัวสอบ PAT7.1 ยังไง
ขอเกริ่นก่อนว่า ด้วยความที่เราเรียนสายศิลป์-ฝรั่งเศสมาอยู่แล้ว เราก็เลยจะคลุกคลีกับมันอยู่ตลอดช่วงม.ปลายเนอะ ดังนั้น ส่วนตัวเราเลยเริ่มเตรียมตัวช่วงปิดเทอมขึ้น ม.6 คือ ตอนนั้นก็จะมีการทบทวนบทเรียนที่เข้มข้นขึ้นกว่าเทอมก่อน ๆ เช่น เวลาไปเรียนพิเศษ เราก็จะพยายามทบทวนบทเรียนทุกครั้งหลังเลิกเรียน กลับมาจดสรุปว่าวันนี้เรียนอะไรไปบ้าง มานั่งlistเนื้อหาที่ไม่เข้าใจตอนเรียนแล้วกลับไปหาข้อมูล หรือไม่ก็จะถามครูที่สอนเลย นอกจากนั้น เราก็พยายามทำสรุปรวมทุกเรื่องของภาษาฝรั่งเศสให้เป็นภาษาของด้วยเองด้วย ทริคของเราคือ แยกสมุดออกมาเลย 3 เล่ม
- เล่มที่ 1 คือ สำหรับจดสรุปแกรมมาร์ ข้อยกเว้นต่าง ๆ พยายามรวมหมวดหมู่ของบทเรียนไว้ด้วยกัน มันจะทำให้เราเข้าใจง่ายขึ้นมาก ๆ
- เล่มที่ 2 คือ สำหรับจดสรุปศัพท์ คือต้องบอกก่อนว่า เราจะท่องศัพท์ทั้งหมดก่อน แล้วมา สแกนอีกที ถ้าคำไหนที่น่าสนใจ หรือยังจำไม่ได้ เราก็จะจดลงสมุดเล่มนี้เพื่อไปทวนอีกที ง่าย ๆ คือเหมือนเราสโคปศัพท์ที่เราต้องจำจริง ๆ ให้มันมีน้อยลง
- ส่วนเล่มที่ 3 เราจะเอาไว้จดเวลาไปเรียนพิเศษ เวลาครูเน้นเรื่องอะไร สำนวนไหน เราก็จะพยายามจดไว้ตลอด นอกจากนี้เล่มนี้ก็จะเอาไว้จดเวลาเราทำแบบฝึกหัดด้วย เช่น ถ้าเราผิดข้อนึ้ เฉลยอธิบายแบบนี้ เรื่องนี้ เราก็จะพยายามจดเป็น point ไว้
ต่อมาพอใกล้วันสอบจริง ๆ ก็จะเน้นการทำโจทย์ เราจำได้ว่าเราทำเยอะมาก คือ ถ้ายิ่งเวลาเหลือน้อยต้องยิ่งทำเยอะ ๆ และต้องจับเวลาจริงด้วยนะคะ
พอพูดถึงการทำโจทย์ก็ขอถามต่อเลยว่า พี่มีเคล็ดลับการทำโจทย์ยังไงบ้าง
เริ่มจากช่วงแรกก็จะทำพวกแบบฝึกหัดต่าง ๆ ไปก่อน เพราะเราคิดว่าเราควรจะพร้อมที่มาก ๆ ก่อนจะไปทำข้อสอบเก่า เพื่อจะได้ทดสอบตัวเองแบบมีคุณภาพมากสุด คือ ก็จะเริ่มจากลำดับความสำคัญก่อน ว่าควรจะทำเล่มไหนก่อน – หลัง จากนั้นก็วางตารางไว้เลยว่าเดือนไหนจะจบเล่มไหนบ้าง ในช่วงแรก เวลาเราทำโจทย์เราก็จะพยายามชิว ๆ ไปก่อน ทำวันละ 50 ข้อ แลัวที่เหลือไปอ่านเก็บเนื้อหาต่อ แต่พอเข้าสู่ช่วง 3 เดือนก่อนสอบ ก็คือเหยียบสุดแรงเลย ตอนนั้นก็ตะลุยทำข้อสอบเก่าทุกปีที่หามาได้ ถึงตรงนี้ก็จะจริงจังขึ้นมาก จะจับเวลาทำจริงตลอด ทำเหมือนสอบจริงเลย แต่ถ้าวันไหนไม่ไหว หรือเวลาไม่พอก็จะแบ่งทำทีละครึ่งชุด ก็คือ 50 ข้อ จับเวลา 1:30 ชม. เพราะการโจทย์ 100 ข้อ 3 ชม.รวดเดียวมันค่อนข้างใช้เวลา และแรงสมองเยอะมากค่ะ ดังนั้นเราต้องพร้อมจริง ๆ ทริคของเรา คือ เวลาทำโจทย์ / แบบฝึกหัดเสร็จ เราจะทวนก่อนตรวจ 3 รอบ คือ 1.เราจะมาเช็คที่ละข้อว่า ข้อไหนไม่แน่ใจบ้าง ข้อไหนที่มีแนวโน้มว่าอาจจะพลาดก็จะวงไว้ ต่อมาจะดูเรื่องความรอบคอบว่า 2.เราทำครบมั้ย 3.เราเลือกไปมันตรงกับที่เราจะเลือกรึป่าว ตรงนี้นอกจากจะฝึกความรอบคอบแล้ว มันจะช่วยทำให้เราพอรู้ว่าโจทย์ชุดนี้เราจะได้คะแนนเท่าไหร่ รวมถึง พอมาดูข้อที่เราไม่มั่นใจ / ข้อที่วงไว้ เราก็จะได้ย้ำตัวเองอีกทีว่า เรายังไม่แม่นเรื่องไหนบ้าง ต้องทวนอะไรบ้าง หรือถ้าข้อไหนเราถูกอยู่แล้ว มันก็จะทำให้เรามั่นใจขึ้น จะไม่ต้องลังเลวันสอบจริงอีก
แล้วเรื่องคำศัพท์ล่ะ อยากรู้เลยว่าพี่ว่านมีทริคการจำศัพท์ยังไงบ้าง
ทริคของเราหลัก ๆ เลยคือเราจะมี Step การจำชัดเจนไปเลย คือ พอเรามีคลังศัพท์อยู่ในมือแล้วเนี่ย ขั้นตอนแรก เราจะมานั่งscanก่อนว่า มีคำไหนน่าสนใจบ้าง ซึ่งคำว่า ‘น่าสนใจ’ในที่นี้ คือ 1. น่าจะเจอในข้อสอบ 2. คำที่มีความหมายมากกว่า1ความหมาย 3. คำที่เราแปลไม่ออกเลย ซึ่งถ้าเข้าข่ายแบบนี้เราก็จะไฮไลต์เน้นไว้ Step ต่อมา เราจะเอาศัพท์พวกนี้มาจดลงสมุดรวมคำศํพท์ของเราอีกที หลังจากนั้น เราก็จะมาดูว่า พอผ่านมาสองขั้นตอนแล้ว มีคำไหนที่เรายังคงจำไม่ได้อีกบ้าง 5555 เพราะจริง ๆ บางคำพอได้อ่าน ได้เน้น ได้จดไป มันก็จะจำได้แล้ว แต่ถ้าเรายังจำไม่ได้จริง ๆ เราก็จะเอาแต่ละคำมาคัดลงกระดาษ แบ่งเป็นครั้งละ 5-10 คำ ถ้ายังจำไม่ได้อีกก็จะคัดเพิ่มไปอีกรอบ ต้องบอกก่อนว่าเราถนัดคัดมากกว่าการท่อง เพราะส่วนตัวการเขียนผ่านมือมันมันให้เราจำมันได้ดีกว่ามาก แต่อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนเลย
แล้วแกรมมาร์ รวมถึงพาร์ทอื่น ๆ มีทริคยังไงบ้าง
จริง ๆ ทริคตรงนี้อาจจะไม่มีไรมาก นอกจากพยายามอ่าน,ทำสรุปให้จำได้ แล้วก็บางทีก็อาจจะต้องเจอในโจทย์ / ข้อสอบเก่าบ่อย ๆ อย่างเช่นพาร์ทบทสนทนา, วัฒนธรรมเนี่ย คือ ข้อสอบมันวน ๆ จริง ๆ 5555555555 คือต้องทำบ่อย ๆ เลย ด้วยความที่เนื้อหากว้างมาก เราอาจจะจำได้ไม่หมดแน่นอน แต่ถ้าเราทำโจทย์เยอะ อย่างน้อยเราก็จะพอรู้แนวข้อสอบ หรือได้เห็นบางเรื่องผ่านตาก็ยังดี ส่วนแกรมมาร์ก็จับจุดไม่ยากเลย พยายามจดพวกข้อยกเว้นไว้เป็นหมวดหมู่ เพราะมันมีเยอะมากกกก แต่ถ้าเราทำโจทย์เยอะ ๆ ก็จะพอรู้เหมือนกันว่าต้องเน้นเรื่องไหนบ้าง ขอเน้นว่าทำโจทย์สำคัญมาก ๆ ทั้งแบบฝึกหัด ทั้งข้อสอบเก่าเลย
รีวิวข้อสอบPAT7.1 และทริคต่าง ๆ ในวันสอบจริงหน่อย
รีวิวตามตรงคือ ข้อสอบปีเราง่ายกว่าที่คิดเยอะเลยค่ะ อาจจะเพราะด้วยความที่โรงเรียนสอนยากอยู่แล้ว + เราเจอโจทย์ยาก ๆ มาเยอะ พอเรามาดูข้อสอบจริงที่มาอยู่ตรงหน้าเรารู้สึกโล่งอกขึ้นมาเยอะเลยค่ะ (เพราะตอนแรกแอบเครียดมาก555555) ในเรื่องข้อสอบ เราอาจจะจำข้อสอบเป๊ะ ๆ ไม่ได้ แต่ก็อย่างที่น้อง ๆ รู้ว่าหลัก ๆ ข้อสอบมันจะประกอบไปด้วย พาร์ทแกรมมาร์ คำศัพท์ บทสนทนา วัฒนธรรม คำเชื่อม และพาร์ทการอ่าน รวมทั้งหมด 100 ข้อ ภายในเวลา 3 ชั่วโมง พาร์ทที่เราคิดว่ายากที่สุดน่าจะเป็นเรื่องวัฒนธรรมค่ะ เพราะตอนนั้นเราว่าเราพลาดตรงนี้ไปเยอะสุดเลย ด้วยความที่สัดส่วนจำนวนข้อของพาร์ทนี้มันน้อย และเนื้อหาวัฒนธรรมมันกว้างมาก คนส่วนมากก็อาจจะทุ่มให้ตรงนี้น้อยกว่าส่วนอื่น ๆ ก็เลยพลาดกันเยอะค่ะ ส่วนเรื่องแกรมมาร์ / คำศัพท์ / บทสนทนา / คำเชื่อม ก็ไม่ยากเลยค่ะ ถ้าเตรียมตัวไปดียังไงก็ทำได้แน่นอน แต่อยากฝากไว้ก็ คือ พาร์ทการอ่านค่ะ ส่วนตัวเราจะอ่าน Reading ก่อนทำพาร์ทอื่นตลอด เพราะเราไม่รู้ว่ามันจะกินเวลาเท่าไหร่ อยากให้น้อง ๆ ฝึกอ่านไปเยอะ ๆ ฝึกบริหารจัดการเวลาไปดี ๆ เลยค่ะในพาร์ทนี้
ส่วนวันสอบจริงก็พยายามชิว ๆ ไว้ค่ะ ถึงแม้จะแอบเครียดมากก็ตาม55555 แต่ก็พยายามทำใจโล่ง ๆ เตรียมตัวไปให้พร้อม พวกอุปกรณ์ต่าง ๆ ห้ามขาดเลยนะคะ เอาเสื้อหนาวไปเผื่อก็ดีค่ะ เผื่อที่นั่งบางคนแอร์ตกพอดี พยายามเตรียมกายเตรียมใจให้พร้อมที่สุด ถ้าง่วงก็กินกาแฟมาก่อนเลย อย่าง่วงตอนทำเด็ดขาดนะคะ เอาให้เราพร้อมที่สุดทุกทางเลย
มีอะไรอยากบอกน้อง ๆ ที่กำลังจะสอบPAT7.1มั้ย
เราอยากบอกน้อง ๆ ว่า จริง ๆ แล้วข้อสอบมันไม่น่ากลัวเลย แต่ขอให้น้อง ๆ เตรียมตัวไปให้พร้อมที่สุดเท่าที่จะทำได้ ให้เราคิดว่าซะว่าถ้าเรามองกลับมาในช่วงเวลาการสอบเข้า เราจะไม่เสียดายเรื่องการเตรียมตัวเลย เพราะเราเชื่อว่า ไม่ว่าเราจะสำเร็จหรือไม่ ถ้าเราเต็มที่แล้วจริง ๆ เราจะไม่เสียดายกับตัวเองแน่นอนค่ะ ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับน้อง ๆ ไม่มากก็น้อยนะคะ ขอเน้นอีกครั้งว่า ลุยให้เต็มที่ไปเลย! ทุ่มให้สุด! น้อง ๆ จะทำได้แน่นอน!
สู้เขาาาา
และสำหรับน้อง ๆ คนไหนที่อยากเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่มหาวิทยาลัย ลองมาเตรียมความพร้อมไปพร้อม ๆ กันได้จากที่นี่เลย เตรียมสอบ TCAS65 หรืออยากหาโจทย์เก่า ๆ ทำเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ก็เข้ามาที่นี่ได้เลยน้าา คลังข้อสอบ แล้วมาฝึกทำข้อสอบไปพร้อม ๆ กันนะ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับคณะพยาบาลศาสตร์
