การเรียน 6 ปี กับ คณะเภสัชศาสตร์ ต้องเรียนอะไรบ้าง
“เรียกฉันว่าเภสัชกร”
“ไม่เก่งเคมี เรียนเภสัชฯ ได้ไหม?”
วันนี้เราจะมาเจาะวิชาการปรุงยาของศาสตราจารย์สเนปกันดีกว่า…ไม่ใช่!! ก็ใกล้เคียง เพราะวันนี้เป็นคิวของ “คณะเภสัชศาสตร์” มาดูกันดีกว่าว่าเภสัชกรเขาเรียนอะไรกันบ้าง กว่าจะเป็นได้ถึงทุกวันนี้ การเรียน 6 ปี จะหนักหน่วงแค่ไหน แล้วต้องเจอกับอะไรบ้าง
แต่ก่อนที่เราจะเจาะว่าในแต่ละปีเรียนอะไรบ้าง เราลองมาดูกันว่า ในคณะเภสัชฯ เขาแบ่งออกเป็นกี่สายกันบ้าง เริ่มกันเลย!!
- สาขาเภสัชกรรม อุตสาหการ สายนี้เรียกง่าย ๆ ว่า “สายผลิต” เพราะว่า สายนี้จะเน้นเกี่ยวกับการผลิตซะส่วนใหญ่เลย โดยจะเริ่มจากการค้นคว้าวิจัย การคิดค้นผลิตตัวยาใหม่ ๆ ขึ้นมา รวมถึงการควบคุมคุณภาพของตัวยา เพื่อตอบโจทย์ของความต้องการในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตยา แต่ไม่ใช่อยู่ในส่วนของเครื่องจักรการผลิตนะ น้อง ๆ จะได้อยู่ในห้องแล็บเพื่อทำการคิดค้น และวิจัยตัวยาแทน น้อง ๆ คนไหนที่ชอบการทำงานในห้องแล็บต้องถูกใจสิ่งนี้แน่นอน
. - สาขาเภสัชกรรม บริบาล สายนี้จะเรียกว่า “สายคลินิก” เพราะว่า สายนี้ไม่ได้เรียนแค่การจ่ายยา หรือขายยาเท่านั้น น้อง ๆ ที่เรียนสาขาบริบาลจะต้องเรียนรู้การดูแล และให้บริการผู้ป่วยด้วย นอกจากนี้ ถ้าเลือกทำงานในโรงพยาบาลแล้วยังต้องทำงานร่วมกับแพทย์ได้อีกด้วย ต้องเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยวินิจฉัย การหาแนวทางการรักษา การตามผลการรักษา การจ่ายยา รวมไปถึงต้องให้ความรู้ด้านยาแก่ผู้ป่วย และญาติผู้ป่วยด้วย เนื่องจากการทำงานของสายนี้จะเน้นการทำงานในโรงพยาบาล คลินิก ร้านขายยา รวมถึงทุกสถานบริการด้านสุขภาพ ดังนั้น น้อง ๆ จะได้เจอผู้คนที่หลากหลาย แต่ถ้าใครชอบพบปะผู้คนอยู่แล้ว สายนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้น้อง ๆ ได้เลย
.
เป็นยังไงกันบ้าง…หลังจากรู้ความแตกต่างของแต่ละสาย น้อง ๆ คนไหนที่สังเกตการคณะเภสัชฯ อยู่อย่าลืมคิดถึงความชอบ และนิสัยของตัวเองดูนะ ว่าตัวเองชอบการทำงานแนวไหน เพราะการเลือกเรียนในครั้งนี้จะส่งผลถึงการทำงานในอนาคตของน้อง ๆ แน่นอน…แต่ยังไม่จบ!! เราลองมาดูกันต่อว่าหลังจากติดคณะเภสัชฯ แล้ว น้อง ๆ ต้องเจออะไรบ้างตลอดระยะเวลา 6 ปี ถ้าพร้อมแล้วก็มาลุยกันเลย!!
.
ปี 1 เป็นปีแรกที่เริ่มเรียนมหาวิทยาลัย วิชาส่วนใหญ่ที่น้อง ๆ จะได้เจอ คือ วิชาพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษา เช่น พื้นฐานเคมี พื้นฐานภาษาอังกฤษ วิชาเหล่านี้เป็นเหมือนการปูพื้นฐานก่อนไปต่อสู้ในปีสูง ๆ อีก 5 ปีนั่นเอง แต่ขอบอกไว้เลยว่า คณะเภสัชศาสตร์เป็นอีกหนึ่งคณะที่เน้นวิชาเคมีหนักมาก ยิ่งเรียนปีสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ น้อง ๆ จะได้เจอกับพันธะต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับยามากขึ้น ดังนั้น น้อง ๆ คนไหนที่ไม่ชอบหรือไม่ถนัดวิชาเคมีอาจต้องลองถามตัวเองก่อนว่าไหวแค่ไหน แต่ถ้าชอบจริง ๆ ก็อยากให้ลองเปิดใจกับเคมีดูเนอะ
ปี 2 หลังจากที่น้อง ๆ ได้เรียนพื้นฐานของแต่ละวิชามาแล้ว การขึ้นมาปี 2 รายวิชาจะไม่แตกต่างกันมาก แต่ว่า จะเป็นเนื้อหาที่โหดมากขึ้น ยากมากขึ้น เช่น วิชาเคมี ก็จะเป็นเนื้อหาที่เจาะลึกมากขึ้น และนอกจากวิชาที่เป็นพื้นฐานแล้ว น้อง ๆ จะได้เจอวิชาที่เกี่ยวกับวิชาชีพเภสัชฯ มากขึ้นด้วย เช่น ระบบยา และสุขภาพ การคำนวณเภสัช เคมีของยา รวมไปถึงจะลองทำแล็บทางเภสัชวิทยามากขึ้นด้วย
ปี 3 ปีนี้จะเน้นการทำแล็บมากขึ้น เช่น ปฏิบัติการเภสัชกรรม ปฏิบัติการเภสัชเคมี เภสัชกรรมปฏิบัติ ชีวเภสัชกรรมและเภสัชจลนศาสตร์ ปีนี้น้อง ๆ จะได้ลองใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับสายเภสัชศาสตร์มากขึ้น และจะได้ลองทำการวิเคราะห์ตัวยาต่าง ๆ อีกด้วย
ปี 4 เป็นปีที่เข้าสู่เนื้อหาของเภสัชศาสตร์แบบเน้น ๆ เช่น นิติเภสัช และจริยธรรมเภสัชฯ เทคโนโลยีชีวภาพทางเภสัชศาสตร์ วิธีวิทยาการวิจัยทางเภสัชศาสตร์ การจัดการทางเภสัชศาสตร์ การประกัน และการควบคุมคุณภาพของยา มีความเข้มข้นทั้งด้านทฤษฎี และปฏิบัติอย่างแน่นอน เพราะเป็นปีที่ต้องเตรียมตัวออกไปฝึกงานอีกด้วย
ปี 5 จะมีวิชาของด้านภาษาอังกฤษเข้ามาเสริมให้ เพื่อให้นักศึกษาที่เตรียมจบออกไปได้ใช้ความสามารถอย่างครบถ้วน น้อง ๆ จะต้องมีความรู้ทั้งหลักการ และกระบวนการของเภสัชศาสตร์ การบริหารการผลิตเภสัชภัณฑ์ ความรู้ทั้งหมดของเภสัชเวทที่ควรรู้ เรียนรู้เรื่องพิษต่างๆ ในรายวิชาพิษวิทยา และการทำโครงงานเภสัชศาสตร์เพื่อเตรียมพอไปสู่ปีสุดท้าย
ปี 6 ปีสุดท้ายสุดหิน เป็นปีที่น้อง ๆ จะได้ใช้วิชาชีพที่เราได้เรียนมาตั้งแต่ปี 1 – ปี 5 แน่นอนว่าการฝึกงานในปีนี้น้อง ๆ จะได้ประสบการณ์และความรู้ที่หาไม่ได้จากในห้องเรียนแน่นอน เพราะเป็นเหมือนการทำงานจริง การพบเจอผู้คน ความเสี่ยงที่มีมากขึ้น เป็นการเตรียมตัวออกสู่โลกภายนอกแบบเต็มตัวนั่นเอง
.
เป็นยังไงกันบ้างกับสายเภสัชศาสตร์ของเรา การเรียนของคณะเภสัชศาสตร์ ใช้เวลาเรียนทั้งหมด 6 ปี ซึ่งรายวิชาหรือเนื้อหาในการจัดสอนขึ้นอยู่กับระเบียบการของมหาวิทยาลัย น้อง ๆ คนไหนที่มีความสนใจในคณะนี้ และมีมหาวิทยาลัยในดวงใจแล้ว สามารถดูข้อมูลได้จากระเบียบการได้อีกครั้ง ในความเป็นจริง การเรียนอาจเจออุปสรรคมากกว่านี้ แต่พี่เชื่อว่าถ้าน้อง ๆ เต็มที่กับสิ่งที่ชอบน้อง ๆ ก็จะผ่านมาได้แน่นอน