อยากเข้าแพทย์ มอ. ต้องอ่าน!
“คณะแพทยศาสตร์ มอ. เก่าแก่ที่สุดในภาคใต้และเป็นคณะแพทย์ลำดับที่ 6 ของประเทศ”
“จุดเริ่มต้นของการเลือกคณะแพทย์ มาจากความชอบในวิชาชีวะ”
“สิ่งสำคัญของการเรียนแพทย์ คือการบริหาร แบ่งเวลา จัดตารางการเรียน และการทำกิจกรรมได้อย่างเหมาะสม”
แพทย์จุฬาก็แล้ว แพทย์มศว ก็แล้ว น้อง ๆ อาจจะเริ่มสังเกตได้แล้วว่าเริ่มมีรีวิวของคณะแพทย์มากขึ้น ขอสัญญาเลยค่ะว่าหลังจากนี้จะมีคณะแพทย์อีกหลายๆที่ มาให้น้องๆได้ทำความรู้จักอีกแน่นอนค่ะ
วันนี้มาถึงคิวคณะแพทย์อีกที่หนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่น้อย เชื่อว่าจะต้องมีน้อง ๆ ไม่น้อยที่เลือกที่นี่อยู่ในอันดับด้วยอย่างแน่นอน ก็คือคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หรือ คณะแพทย์ มอ. นั่นเอง ไปพูดคุยกับรุ่นพี่วันนี้กันเลย
สวัสดีค่า ก่อนอื่นก็มาแนะนำตัวให้น้อง ๆ รู้จักกันก่อนนะคะ
.
..
สวัสดีค่าาา ชื่อ เจน นะคะ นศพ.นภัสสร อารยะรังสฤษฎ์ ตอนนี้เป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 3 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ค่ะ
.
อยากให้พี่เจนแนะนำคณะตัวเองให้น้อง ๆ รู้จักหน่อยค่ะ
คณะแพทย์ก็เป็นการเรียนเกี่ยวกับสาขาวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องการดูแลรักษาผู้ป่วย โดยการเรียนที่คณะแพทย์ก็จะใช้เวลาเรียนทั้งหมด 6 ปี โดยปี 1-3 ก็จะเรียกว่าการเรียนชั้นพรีคลินิก ซึ่งเรียนเกี่ยวกับความปกติและความผิดปกติของร่างกาย มีการเรียนกับอาจารย์ใหญ่ การทำแลป เป็นต้น โดยเนื้อหาในการเรียนเราก็จะเรียนเป็นบล็อกซึ่งก็จะแบ่งตามระบบของร่างกาย เช่นบล็อค CVS ก็จะเรียนเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด บล็อกGI ก็จะเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารอย่างนี้เป็นต้นค่ะ ส่วนในปี 4-6 ก็จะเป็นการเรียนชั้นคลินิกซึ่งเราได้ลงไปปฎิบัติงานในการดูแลรักษาผู้ป่วยจริง ๆ ในโรงพยาบาลซึ่งเราก็จะเรียนเป็นวอร์ด ๆ ไป โดยมีอาจารย์และพี่ ๆ คอยให้ความรู้และแนะนำเราค่ะ ส่วนวิชาที่เราชอบเรียนก็เป็นพวก clinical correlations เพราะเป็นวิชาที่เอาความรู้มาประยุกต์ใช้กับการรักษาโรคต่าง ๆ ทำให้เราเข้าใจในสิ่งที่เราเรียนมามากขึ้นประมาณนี้ค่ะ
.
พี่เจนคิดว่าอะไรถือว่าเป็น Signature คณะแพทยศาสตร์ มอ. คะ
.
จุดเด่นของที่มอ.เลย คือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นคณะแพทย์ที่เก่าแก่ของภาคใต้ เพราะฉะนั้นในเรื่องการเรียนเราก็มีความพร้อมเป็นอย่างมากค่ะ นอกจากนี้เรายังมีกิจกรรมทั้งด้านกีฬา ดนตรี ต่าง ๆ มากมายค่ะ และที่สำคัญเลยสำหรับการเรียนในคณะนี้เราเหมือนเป็นพี่น้องเป็นครอบครัวเดียวกันค่ะ มีสายรหัสที่คอยให้คำปรึกษาเรา มีอาจารย์และเพื่อน ๆ ที่คอยช่วยเหลือเราอยู่ตลอดเวลาค่ะ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่อบอุ่นมาก ๆ ค่ะ
.
คณะนี้จบไปสามารถทำงานอะไรได้บ้างคะ
จบจากคณะแพทย์ไปเราก็จะได้เป็นนายแพทย์ แพทย์หญิง อย่างเต็มตัวแล้วค่าาาา😆 เราจะได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาสามารถไปช่วยรักษาผู้ป่วยได้ ซึ่งหลังจากเรียนจบหกปีจากคณะแพทย์แล้วเราก็ไปทำงานใช้ทุน และบางคนก็จะเรียนต่อในสาขาที่เราสนใจเพื่อเป็นแพทย์เฉพาะทางต่อไปค่ะ ซึ่งจริงแล้วการที่เราเรียนจบมาแล้วเราจะทำอะไรต่อไปมันก็ค่อนข้างหลากหลายนะคะ ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบอะไรมากกว่าค่า
.
ทำไมพี่เจนถึงอยากเข้าคณะนี้ รู้ตัวตอนไหนคะ
คิดว่าคงเริ่มรู้ตัวว่าอยากเข้าคณะแพทย์ตอนอยู่ม.5ค่ะ เพราะว่าปีหน้าเราจะสอบเข้ามหาลัยแล้วเราก็ต้องเริ่มคิดถึงอนาคตแล้วว่าเราอยากเป็นอะไร อะไรคือสิ่งที่เราชอบ ซึ่งตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราชอบเรียนชีวะเรียนแล้วรู้สึกสนุก เราก็เลยมองมาที่อาชีพเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สุขภาพ แล้วก็รู้สึกว่าอาชีพหมอนี่แหละที่เป็นอาชีพที่เราสนใจเพราะเราก็สามารถช่วยเหลือคนไข้ให้หายจากความทรมานจากการเจ็บป่วยได้ เราเลยลองคิดว่าถ้าเราเป็นหมอแล้วรักษาคนไข้หายเราคงรู้สึกดีมาก ๆ เลย แล้วก็ยังเป็นอาชีพที่มีมั่นคงด้วย ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เจนตัดสินใจเลือกเรียนแพทย์ค่ะ👩🏼⚕️
.
มหาวิทยาลัย/คณะ มีกิจกรรมอะไรให้เข้าร่วมบ้างคะ
.
กิจกรรมของมหาวิทยาลัยคือเยอะมากค่ะ ยกตัวอย่างก็เช่น ชมรมกีฬา ชมรมดนตรีต่าง ๆ ชมรมโต้วาที เป็นต้นค่ะ ซึ่งถ้าเราสนใจชมรมไหนเป็นพิเศษเราก็สามารถสมัครเข้าไปได้เลยค่ะ
ในส่วนของการรับน้องในปี 1 ก็มีกิจกรรมเยอะมากค่ะ ทั้งกิจกรรมของคณะและกิจกรรมของมหาลัย ซึ่งแต่ละกิจกรรมต้องบอกเลยว่าสนุกมาก ๆ ต้องลองมาเข้ากิจกรรมเองถึงจะรู้ค่ะ555555 ซึ่งการที่มีกิจกรรมเยอะ ๆ ก็จะทำให้เราได้รู้จักกับพี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่หลากหลาย และสนิทกับเพื่อนมากยิ่งขึ้นค่ะ กิจกรรมปี1 ที่เราทำก็เช่น ไปรวมเดินงานพาเรดของการแข่งขันกีฬา 16 คณะของมหาวิทยาลัย ซึ่งก็ทำให้เราได้ร่วมทำงานกับเพื่อน ๆ ได้สนิทกับเพื่อน ๆ มากขึ้นค่ะ
.
พี่เจนมีวิธีการแบ่งเวลาระหว่างการเรียนกับการทำกิจกรรมอย่างไรคะ
การเรียนแพทย์สิ่งที่สำคัญมาก ๆ เลยก็คือการแบ่งเวลานี่แหละค่ะ เราต้องแบ่งเวลาเรียนกับเวลาทำกิจกรรมให้เหมาะสม เพราะความรู้เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับคนเป็นแพทย์แต่เราจะทำยังไงให้ทำกิจกรรมแล้วไม่เสียการเรียนไปด้วย เราก็เลยชอบทำตารางเวลาเวลาค่ะว่าวันนี้เราเรียนเสร็จกี่โมง มีแพลนจะไปทำอะไรต่อมีเวลาว่างช่วงไหนบ้าง เพราะมันจะช่วยทำให้เรารู้ว่าสิ่งไหนที่เราควรจะทำก่อนหลัง เรามีเวลาว่างพอที่จะสามารถไปทำกิจกรรมได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งเราก็คิดว่าการทำตารางเวลาเนี่ยแหละค่ะจะเป็นตัวช่วยให้เราสามารถจัดการกับตารางชีวิตของเราได้ได้อย่างเหมาะสมค่ะ
.
ความรู้สึกที่คิดในตอนแรกก่อนเข้ามาเรียน กับ หลังจากที่ได้เรียนแล้วต่างกันไหมคะ
..
สำหรับการเรียนในคณะแพทย์ในตอนแรกก็คิดว่าคงจะต้องเรียนหนักมาก ๆ แน่เลย จะมีเวลาพักผ่อนไปเที่ยวกับเพื่อนแบบคนอื่นบ้างมั้ย แต่พอเข้ามาเรียนจริง ๆ แล้วก็มีทั้งสิ่งที่ตรงกับที่เราคิดไว้และสิ่งที่ไม่ตรงค่ะ ถ้าถามว่าเรียนหนักมั้ยก็หนักค่ะ5555555 แต่เราจะเป็นหมอนี่เนอะ ถ้าเราไม่มีความรู้เราจะไปรักษาคนไข้ได้ยังไง แต่ก็ไม่ใช่ว่าวัน ๆ เราเรียนอย่างเดียวนะคะเราก็ได้ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปเนี่ยแหละค่ะ ได้ออกไปกินข้าว เดินเล่นกับเพื่อนเหมือนปกติ (แต่อาจจะน้อยกว่าคนอื่นหน่อย55555) คือเราเลือกเองได้ค่ะว่าเราจะเป็นไหน ส่วนเรื่องเพื่อนคือเพื่อนในคณะน่ารักกันมาก ๆ เหมือนพวกเราไม่ได้เรียนแข่งกัน แต่ช่วยกันเรียนมากกว่า ช่วงใกล้สอบเราก็จะมีเพื่อนส่งสรุปมาให้อ่าน มีติวให้กันบ้างค่ะ และอาจารย์ที่คณะเราก็คือใจดีสุด ๆ ค่ะ ถ้าเรามีปัญหาอะไรตรงไหนอาจารย์ก็พร้อมที่จะยื่นมือเข้าช่วยเราเสมอค่ะ ทำให้เราไม่ต้องกลัวเลยว่าเราจะต้องเรียนเครียดอยู่คนเดียวมั้ยเพราะมีหลายคนที่คอยอยู่ข้าง ๆ เราเสมอทั้งเพื่อนและอาจารย์ ไหนจะครอบครัวที่คอยให้กำลังใจเราเสมออีกค่ะ😊
.
พี่เจนมองอนาคตตัวเองไว้ยังไงบ้าง อยากเรียนต่อไหมคะ หรือว่าอยากจะทำงานเลย
ในอนาคตคงอยากเรียนต่อแหละค่ะ อยากเรียนต่อในด้านที่เราสนใจแต่ถ้าถามว่าเป็นทางด้านไหนตอนนี้ก็คงยังตอบไม่ได้ค่ะ คงต้องรอให้ขึ้นคลินิกก่อนแล้วดูว่าตัวเองชอบเรียนอะไรก็คงอยากจะเรียนสาขานั้นต่อค่ะ
.
มีอะไรอยากฝากถึงน้อง ๆ ที่กำลังสนใจอยากเข้ามาเรียนคณะแพทย์มั้ยคะ
สำหรับน้อง ๆ ที่อยากเรียนหมอนะคะ ก็อยากให้พยายามมาก ๆ ตั้งใจอ่านหนังสือ ทำข้อสอบเก่าเยอะ ๆ ค่ะ ถ้าเราพยายามเราทำได้อยู่แล้วค่ะ จะเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ก็ขอให้สู้ ๆ แล้วสอบติดตามคณะที่ทุกคนหวังไว้นะคะ ขอให้ทุกคนโชคดีน้าาาาา 😊