fbpx

โชว์พอร์ตธุรกิจ หลักสูตร ศศ.บ. มหิดล!

 โชว์พอร์ตธุรกิจ หลักสูตร ศศ.บ. มหิดล!

“หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาการประกอบการเชิงนิเวศวัฒนธรรม การเรียนที่ไม่ได้อยู่แต่ในห้องเรียน”

“โรงเรียนคือแหล่ง Port ที่ดีที่สุด! ยิ่งเข้าร่วม ยิ่งได้เยอะ”

“ส่วนสำคัญใน Port คือเป้าหมายของการศึกษาและกิจกรรมที่เข้าร่วม”

ในอนาคต มีใครฝันว่าอยากเป็นผู้ประกอบการ เป็นเจ้าของธุรกิจบ้าง? วันนี้ ทาง TCASter ได้ชวนพี่แสตมป์ ซึ่งกำลังเรียนอยู่ในหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาการประกอบการเชิงนิเวศวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นให้นักศึกษาสามารถพัฒนาตนเองเพื่อเป็นผู้ประกอบการ มาแบ่งปันประสบการณ์การทำ Portfolio (แฟ้มสะสมผลงาน)ให้น้อง ๆ ฟัง พร้อมทั้งเจาะลึกหลักสูตรในการเรียน แอบกระซิบตรงนี้เลยว่า เป็นหลักสูตรที่น่าสนใจมาก ๆ อย่ารอช้า ไปทำความรู้จักกับพี่แสตมป์กันเลยดีกว่า 

มาเริ่มทำความรู้จักก่อนดีกว่า อยากให้แนะนำตัวให้น้อง ๆ ฟังหน่อย ว่าติด Portfolio รอบไหน โครงการไหนของมหาวิทยาลัยอะไรคะ

สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ น.ส.ช่อฉัตร เพิ่มเพียรเกียรติ ชื่อเล่น แสตมป์ พี่เป็นเด็กรุ่น 61 นะคะ ตอนนี้พี่กำลังศึกษาอยู่หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาการประกอบการเชิงนิเวศวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยมหิดล ปี 2 พี่ติดที่นี่โดยการยื่นโครงการ Portfolio รอบ1/2 ค่ะ

 

ทำไมถึงอยากเข้าคณะนี้ มีอะไรเป็นแรงบัลดาลใจคะ

          พี่อยากเรียนคณะนี้เพราะพี่อยากเรียนแนวด้านบริหาร การจัดการ เนื่องจากมีธุรกิจของครอบครัวที่อยากจะสานต่อกิจการ แล้วจากการที่ศึกษาวิชาเรียนของคณะและมหาลัยหลาย ๆ ที่ก็พบว่ารายวิชาของหลักสูตรนี้ มีวิชาที่ตรงกับความชอบ และมีรูปแบบการสอนที่ไม่ใช่แค่ในห้องเรียน เน้นการทดลองปฎิบัติจริงและมีวิชาที่คิดว่าเมื่อเรียนแล้วได้นำไปพัฒนาต่อในการทำงานในอนาคตอย่างแน่นอน อย่างเช่น ปี 1 พี่ได้เรียนวิชา Inspiration for Entrepreneur จะเป็นวิชาที่ปูพื้นฐานเพื่อให้เราพร้อมในการเป็นผู้ประกอบการค่ะ และพอขึ้นปี 2 จะเริ่มเข้าเนื้อหาเจาะลึกมากขึ้นและได้ลงพื้นที่ดูงานจริง เพื่อให้เข้าใจและเป็นประสบการณ์เตรียมพร้อมให้เราได้ลงมือทดลองทำ project ของเราตอนปี 3 และ ปี 4 จะได้ฝึกงานกับผู้ประกอบการจริง ๆ ค่ะ

 

แล้วเริ่มรู้ตัวว่าอยากเข้าคณะนี้ตอนไหน

          บอกก่อนเลยว่าตอนแรกพี่ไม่รู้เลยว่าตัวเองอยากเรียนคณะอะไร แต่เพื่อน ๆ ของพี่ชอบทำกิจกรรมและเราก็ติดเพื่อนอะเนอะ เพื่อนเข้ากิจกรรมไหน เราก็ไปด้วย เราก็เลยได้ลองทำกิจกรรมต่าง ๆ ในหลาย ๆ รูปแบบ การที่เราได้ลองทำก็เลยทำให้เราจับหลักและแนวทางของเราได้ เราก็เลยปรึกษาทางบ้านว่าเราอยากเรียนสายนี้ เค้าก็สนับสนุนเราเต็มที่ เราก็เลยเริ่มมีเป้าหมายตอน ม.5 แล้วก็หาข้อมูลอ่านรีวิวคณะต่าง ๆ มาเรื่อย ๆ จนมาเจอคณะที่เราเรียนอยู่ที่นี่ค่ะ

แล้วหลังจากนั้นเริ่มวางแผนยังไงบ้างเกี่ยวกับการทำ Portfolio คะ 

          เราเริ่มทำ Portfolio จริงจังก็ช่วงม.6 ทางโรงเรียนเราจะมีวิชาแนะแนว อาจารย์ก็จะคอยให้คำปรึกษาและแนะนำในการทำ port ว่าต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง การจัดลำดับผลงาน กิจกรรมไหนบ้างที่สำคัญ บวกกับการดู port ของรุ่นพี่เพื่อเป็นตัวอย่างแนวทางในการทำของเรา ระหว่างที่ทำไปด้วยเราก็ให้รุ่นพี่ อาจารย์ ดูเพื่อให้เค้าแนะนำเราอีกทีด้วย

 

มีแหล่งหาผลงานในการทำ Portfolio จากไหนบ้างคะ

   พี่ว่าแหล่งผลงานง่าย ๆ ของเราเลยก็คือโรงเรียนของเรานี่แหละค่ะ มีกิจกรรมอะไรก็เข้าร่วมให้หมดเลย แล้วพี่ก็ติดตามกิจกรรมของแต่ละมหาลัยต่าง ๆ ด้วย พี่จะติดตามผ่านทางเพจ facebook ของมหาลัยหรือคณะนั้น ๆ ค่ะ เค้าจะชอบมีกิจกรรมแข่งขันให้เข้าร่วม ไม่เพียงเท่านี้ยังมีให้ไปเข้าร่วมค่ายต่าง ๆ เมื่อเราเข้าไปแล้วเค้าก็แนะแนวทางให้เราได้ด้วยว่าเราสนใจคณะนี้หรือไปในทางที่เรามาจริงหรือเปล่า ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีเลย แถมได้เพื่อนเพิ่มขึ้นอีกด้วยนะ

 

อยากให้พี่สแตมป์ลองแชร์หลักการหรือเทคนิกในการทำ Portfolio ให้น้อง ๆ ฟังหน่อยค่ะ

          หลักการทำก็ทั่วไปเลยดูตามที่เค้าสอนในเน็ต หรือดูรีวิวรุ่นพี่จากรุ่นก่อน ๆ มีข้อมูลของเรา กิจกรรม เกียรติบัตรต่าง ๆ แต่เทคนิคการทำ port ของพี่ก็คือการที่เรามีเป้าหมายที่เราต้องการจะศึกษาต่อ และหาผลงาน หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคณะที่เราอยากเข้า เช่น คณะที่พี่อยากเข้าเป็นแนวบริหาร การจัดการ พี่ก็จะเน้นผลงานในการทำธุรกิจ เช่น การจัดบูธขายของในงานโรงเรียน เราก็ทำฝ่ายตลาด อะไรทำนองนี้ค่ะ

 

โดยรวมแล้วใช้ระยะเวลานานมั้ยคะ ในการเตรียมตัวทำ Portfolio

  

          โดยรวมที่พี่ทำออกมาเป็นรูปเล่มเลย ก็ไม่ค่อยนานนะ ประมาณ 1-2 เดือน แต่ถ้ารวบรวมกิจกรรมต่าง ๆ ละก็นานมากเลย เราต้องสะสมกิจกรรมที่เราจะนำมาใส่ port ได้ คือพวกกิจกรรมมันไม่ได้มีตลอดเวลาอ่ะ มันจะมีเป็นช่วง ๆ และต้องค่อยตามกิจกรรมบางทีมันมีแค่ปีละครั้งอะไรแบบนี้ เราก็เลยไม่อยากพลาดกิจกรรมพวกนี้เลย อีกอย่างถ้าเราไม่สะสมกิจกรรมหรือเกียรติบัตรต่าง ๆ เราจะมาหากิจกรรมทำตอนใกล้ ๆ ยื่น port พี่ว่าคงวุ่นวายมากเลย แนะนำให้สะสม ๆ มาเรื่อย ๆ ดีกว่านะ

 

พี่แสตมป์คิดว่าการทำ Portfolio ส่วนไหนสำคัญที่สุดคะ

          พี่คิดว่าส่วนตรงที่เราเขียนเป้าหมายการศึกษาและกิจกรรมต่าง ๆ เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดค่ะ ในส่วนของการเขียนเป้าหมายของเราจะทำให้ทราบถึงเป้าหมายและการวางแผนในอนาคตที่ไม่ใช่แค่เพียงเท่านี้เราสามารถอธิบายความชอบและแรงบันดาลใจที่เราอยากเรียนในคณะ สาขา และมหาลัยนี้ได้ด้วย และในส่วนของกิจกรรม จะเป็นส่วนที่นำเสนอความสามารถและประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เราผ่านมาว่าเราเคยทำไรมาบ้างค่ะ 

มีอะไรอยากแชร์อะไรเกี่ยวกับประสบการณ์การสัมภาษณ์รอบ Portfolio ให้น้อง ๆ ฟังไหมคะ

          ในรอบการสัมภาษณ์ก็ไม่ต้องเครียดมาก ทำตัวสบาย ๆ เพราะถ้าตื่นเต้นเวลาอาจารย์ถามคือจะลนมากเลย อย่างของพี่ตอนแรกเลยเค้าก็ให้เราแนะนำตัว เราก็แนะนำไปว่าชื่ออะไร จบจากโรงเรียนอะไร ต่อมาอาจารย์เค้าก็ถามเกี่ยวกับว่าทำไมเราถึงยื่นคณะนี้ อนาคตเราอยากทำอะไร คาดหวังอะไรกับการเรียนที่นี่ ถ้ามาเรียนจริง ๆ จะไหวไหม เอาเป็นว่าสู้ ๆ นะน้องๆ ผ่านมารอบนี้แล้วไม่ยากแล้วค่ะ

 

มีทริคในการสอบสัมภาษณ์รอบ Portfolio ยังไงคะ

          ทริคของพี่ก็คือตอบอย่างมั่นใจค่ะ ไม่มีอะไรที่เราตอบถูกผิดนะ แต่ถ้าถามคำถามไหนตอบไม่ได้จริง ๆ ก็บอกอาจารย์ไปตามตรงว่าไม่ทราบค่ะ อาจารย์ไม่ว่านะเพราะส่วนใหญ่เราจะคิดว่าอาจารย์โหด แต่จริง ๆ แล้วอาจารย์ไม่โหดนะ555 แล้วก็อย่างหลุดประเด็นจากที่อาจารย์ถามเยอะนะ พยายามจับสิ่งที่เราเด่น ๆ นำเสนออะไรที่ทำให้เราแลดูพิเศษ มีความสามารถ แล้วก็ทริคที่สำคัญเลยสติค่ะ555 ตั้งสติอย่างหลุดจากสิ่งที่อาจารย์ถามก็พอแล้วนะ

 

มีอะไรอยากฝากถึงน้อง ๆ ที่อยากติดรอบ Portfolio มั้ยคะ

          สิ่งที่พี่อยากฝากถึงน้อง ๆ ก็คืออย่าท้อค่ะ บางทีเราอาจจะยังหาแนวทางไม่เจอจนเราเหนื่อยแต่ก็อย่าท้อ พยายามสักวันเราจะเจอแนวทางที่เราชอบจริง ๆ แล้วที่ขาดไม่ได้เลยอย่าขี้เกียจนะ ความขยันสำคัญมาก และสุดท้ายนี้อย่าลืมว่ายังมีอาจารย์ที่พร้อมให้คำปรึกษาและคอย Support เราอยู่เสมอ และรุ่นพี่ เพื่อน ๆ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่ค่ะ

kat pari

pari

Related post