รัฐศาสตร์ ม.น. กับการเรียนการสอนที่ไม่มีคำว่า Easy
” คณะสังคมศาสตร์ ม.นเรศวร มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือตอนล่าง “
” มหาวิทยาลัยท้องถิ่นที่การเรียนเข้มข้นไม่แพ้มหาวิทยาลัยในเมือง “
” มีภาษาน่าสนใจให้เรียนเยอะ ยิ่งรู้ภาษามากยิ่งได้เปรียบในการเรียนรัฐศาสตร์ “
เชื่อว่าคงมีน้อง ๆ อยู่ไม่น้อย ที่แอบมีความสนใจอยากเป็นนักการทูต แล้วกำลังสนใจคณะรัฐศาสตร์อยู่แน่ ๆ วันนี้ TCASter อยากจะแนะนำให้น้อง ๆ รู้จัก 1 ในทางเลือกของการเรียนรัฐศาสตร์ กับคณะสังคมศาสตร์ สาขารัฐศาสตร์ ม.นเรศวร ว่ามหาวิทยาลัยประจำจังหวัดพิษณุโลกนี้เป็นอย่างไรบ้าง ไปอ่านบทสัมภาษณ์กันเลย
แนะนำตัวให้น้อง ๆ ฟังหน่อย เป็นรุ่นพี่จากคณะไหน มหาวิทยาลัยอะไร
ชื่อ อัคคัญญ์ บั้งเงิน ชื่อเล่น บิ๊ก อายุ 21 ปี เรียนอยู่คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ เอกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ชั้นปีที่ 3 ครับ
ทำไมถึงอยากเข้าคณะนี้ รู้ตัวตอนไหน
จริง ๆ ตอนแรกก็ยังไม่รู้ตัวนะครับ พอดีตอนนั้น ม.5 ผมได้ไปแลกเปลี่ยนที่เยอรมัน 1 ปีพอไปแล้วก็ชอบมาก ๆ แบบ ประเทศเค้าดี แล้วก็อาชีพทูตก็เป็นอาชีพที่มั่นคง แล้วก็มีเกียรติ ได้ทำงานรับใช้ประเทศด้วย ก็เลยอยากเป็นทูตครับ
สาขาวิชารัฐศาสตร์ เอกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง
สาขาวิชารัฐศาสตร์ที่นี่ เป็นหนึ่งในสาขาของคณะสังคมศาสตร์ครับ ก็จะมีสามเอกด้วยกัน ก็คือ เอกการเมืองการปกครอง เอกรัฐประศาสนศาสตร์ และเอกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งในช่วงแรกตอนปี 1 ทั้งสามเอกก็จะเรียนรวมกัน เป็นวิชาหลัก ๆ พื้นฐานของสาขารัฐศาสตร์ เช่นการเมืองการปกครองเบื้องต้น การเมืองการปกครองไทย จิตวิทยาเบื้องต้น อะไรทำนองนี้ครับ เทอมสองก็ยังเรียนด้วยกันอยู่ แต่แต่ละเอกก็จะเริ่มมีวิชาที่เจาะลึกเข้าไปในเอกของตัวเองมากขึ้น
พอขึ้นปี 2 ก็จะแยกกันเรียนแล้วครับ โดยเอกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก็จะเรียนวิชาทฤษฎีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พวกประวัติศาสตร์การทูต แบบการทูตเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ มีเพื่ออะไรแล้วเกิดพัฒนาการอะไรบ้าง แล้วก็เรียนเกี่ยวกับสถาบันและองค์การระหว่างประเทศ ว่ามันมีอะไรบ้าง แล้วแต่ละที่มีหน้าที่อะไร นอกจากนี้ภายใน4 ปีก็ต้องเรียนภาษาอื่นเพิ่มเติมด้วย 2 ตัวครับ ก็จะมีให้เลือกเยอะเลย ก็จะมี จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เกาหลี แล้วก็ภาษาในอาเซียน เช่น เขมร พม่า อินโดนีเซีย เวียดนามครับ ส่วนตัวผมเรียนฝรั่งเศสเพราะพอมีพื้นฐานอยู่แล้วครับ
คิดว่าจุดเด่นของคณะและมหาวิทยาลัยเราคืออะไร
ส่วนตัวผมก็ค่อนข้างภูมิใจในมหาวิทยาลัยกับคณะนะครับ ที่นี่มีอาจารย์เก่ง ๆ ที่จบจากเมืองนอกก็เยอะ หลายครั้งก็ได้มีการเชิญวิทยากรมาจัดสัมนาวิชาการ ให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจให้นิสิตครับ
ส่วนเรื่องคณะ ผมว่าสาขารัฐศาสตร์มีจุดเด่นคือเรียนเกี่ยวกับสังคมและรัฐ ทำให้มีการให้ความสำคัญกับเรื่องต่าง ๆ ในสังคมเป็นอย่างมาก ที่สำคัญคือสาขารัฐศาสตร์ที่นี่เป็นสาขาที่ค่อนข้างมีอิสระทางความคิดสูงมาก ต่างคนต่างมีแนวคิดที่เป็นของตัวเอง แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ครับ อีกข้อคือภาษาที่มีให้เลือกเรียนค่อนข้างหลากหลายครับ โดยเฉพาะวิชาภาษาในอาเซียน แบบภาษาพม่า ภาษาอินโดนีเซีย ภาษาเวียดนาม ภาษาเขมร ผมคิดว่าก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่สนใจเรียนรู้ภาษาของประเทศเพื่อนบ้านเราครับ
คณะนี้จบไปสามารถทำอะไรได้บ้าง
จริง ๆ คือเป็นได้หลายอย่าง อยู่ที่ขอบเขตความสามารถของเรา แต่หลัก ๆ ก็จะเป็นราชการเลย อย่างเอกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของผม ถ้าสายตรงเลยก็คือไปเป็นพวกนักการทูต หรือทำงานกระทรวงต่างประเทศ อะไรแบบนี้อ่ะครับ ถ้าสายการปกครองเลย จบไปก็เป็นปลัด นายอำเภอ หรือทำงานตามกระทรวง หรืออื่น ๆ ก็เป็นนักวิชาการ เป็นอาจารย์ครับ
พูดเรื่องเรียนกันมาเยอะแล้ว..คราวนี้เราอยากมาคุยถึงกิจกรรมของคณะ/มหาวิทยาลัยกันบ้าง ที่นี่มีกิจกรรมเยอะไหม แล้วเราได้เข้าร่วมกิจกรรมอะไรบ้าง
กิจกรรมเยอะครับ แบบช่วงแรกก็จะหนักหน่อย ช่วงรับน้องก็มีห้องเชียร์ คือทุกคณะก็จะมีห้องเชียร์ของเค้า เลิกเรียนเสร็จ 5 โมงก็ไปเข้าห้องเชียร์ กิจกรรม Beginning camp ที่เป็นกิจกรรมที่มีเฉพาะในมหาวิทยาลัยนเรศวรเท่านั้น กิจกรรมไหว้ครู มีประกวดดาวเดือนด้วย ผมก็ไปแข่งมา สนุกดีครับ ถึงจะไม่ได้ชนะ แต่ได้ประสบการณ์เยอะมาก นอกจากนี้ผมยังได้มีโอกาสทำงานในสภานิสิตของมหาวิทยาลัยด้วยครับ
เรามีวิธีการแบ่งเวลาระหว่างการเรียนกับการทำกิจกรรมยังไงได้บ้าง
ช่วงแรกที่เข้ามาก็ยังปรับตัวไม่ได้ครับ ไหนจะต้องเรียน เรียนเสร็จก็ไปเข้าห้องเชียร์ต่อ หรือกิจกรรมประกวดดาวเดือน เค้าก็มีกิจกรรมเหมือนกัน พอหลัง ๆ ปรับตัวได้ก็คือตั้งใจเรียนในห้องให้เต็มที่ครับ แล้วรีบมาเคลียร์งานค้าง พอทำกิจกรรมเสร็จ กลับมาดึก ๆ ก็ทำงานต่อ เสาร์อาทิตย์ก็แบ่งเวลามาทำงาน จะได้มีเวลาไปทำกิจกรรมด้วย
ความรู้สึกที่คิดในตอนแรก กับ หลังจากที่ได้เรียนแล้วต่างกันไหม ทั้งเรื่องบรรยากาศในคณะกับเพื่อน ๆ และอาจารย์ รวมถึงเนื้อหาวิชาเรียน
ต่างมากเลยครับ แบบตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดว่ามหาวิทยาลัยเราจะเน้นวิชาการอะไรมาก แต่พอมาเรียนเข้าจริง มีแต่อาจารย์เก่ง ๆ ได้เกียรติยมอันดับ1 หรือจบเมืองนอกกันทั้งนั้น ซึ่งทำให้การเรียนนั้นเข้มข้นจริง ๆ เรื่องเพื่อนก็ ต่างกว่าที่คิดอ่ะครับแบบ เหมือนเรามาจากคนละสังคมกัน ก็ต้องปรับตัวเข้าหากันครับ
เรามองอนาคตไว้ยังไงบ้าง อยากเรียนต่อไหม หรือว่ามองด้านอาชีพเลย
สำหรับอนาคตถ้าผมเรียนจบแล้ว คิดว่ายังไม่อยากจะทำงานเลยครับ ผมอยากไปใช้ชีวิตของตัวเอง ค้นหาตัวเองเพิ่ม หาประสบการณ์ใหม่ ๆ เป็นอาสาสมัครทำนู่นทำนี่ที่ต่างประเทศ ซัก 1-2 ปีแล้วค่อยเริ่มทำงานครับ
มีอะไรอยากฝากถึงน้อง ๆ ที่กำลังสนใจอยากเข้ามาเรียนคณะเดียวกับเราไหม
สำหรับใครที่อยากมาเรียนมหาลัยนี้นะครับ ที่นี่สงบมาก ๆ ใครที่เบื่อเมืองใหญ่ เบื่อแสงสี ก็มาเรียนที่นี่ได้นะครับ สู้ ๆ ครับ เจอกันที่มหาวิทยาลัยครับ