#TCASterชวนน้องรีวิว (พี่ปั้นแป้ง) สอบติดรอบ Portfolio เทคนิคการแพทย์ม.อ.

1. แนะนำตัวเองให้ฟังหน่อยซิ

“พี่ปั้นแป้ง สอบติด TCAS รอบ 1 โครงการรับนักเรียนที่มีผลการเรียนดี”

สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ ศิรประภา เดชดี ชื่อเล่นปั้นแป้ง จบการศึกษาจากโรงเรียนมอ.วิทยานุสรณ์ แผนการเรียน วิทย์-คณิต ปัจจุบันเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการสอบเข้าติด TCAS รอบ 1 Portfolio โครงการรับนักเรียนที่มีผลการเรียนดี

2. อะไรเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เลือกเรียนคณะเทคนิคการแพทย์

“เพราะนักเทคนิคการแพทย์เป็นที่ขาดแคลน และเป็นทางชอบของพี่ปั้นแป้งอีกด้วย”

โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ชอบเรียนวิชาชีวะกับภาษาอังกฤษค่ะ เวลาเรียนแล็บชีวะ จะรู้สึกสนุกและชอบมากๆ โดยเฉพาะแล็บที่ต้องส่องกล้องจุลทรรศน์หรือตรวจดูสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก แล้วก็ที่โรงเรียนพี่เวลาเรียนแล็บก็จะใช้กล้องคนละตัวไปเลย ทำให้เราได้ลองใช้กล้องด้วยตัวเองจริงๆ สนุกมากๆ

และเป็นคนที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเรียนอาชีพจำพวกสายวิทย์สุขภาพ ประกอบกับมีโครงการรับนักเรียนที่มีผลการเรียนดี คณะเทคนิคการแพทย์พอดี ซึ่งเป็นคณะที่ถ้าเราไม่เลือกเยอะ จะมีงานทำแน่นอน อาชีพนี้ในมุมมองของพี่คิดว่ายังไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะปีนึงผลิตนักเทคนิคการแพทย์ยังค่อนข้างน้อย เหมือนพี่อยู่มอ.(มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์) ใน 1 ปีรับนักศึกษาเพียง 60 – 70 คนค่ะ แล้วโรงพยาบาลรัฐและเอกชน คลินิกเอกชนทั้งประเทศไทยก็มีเยอะ

3. ใช้เวลาเตรียมตัวนานแค่ไหน วางแผนการเตรียมสอบอย่างไรบ้าง

“เริ่มเตรียมตัวเร็ว มีวินัยในตัวเอง มีชัยไปกว่าครึ่ง”

พี่ใช้เวลาเตรียมตัวตั้งแต่ ม.4 เลย ตอนนั้นยังไม่เรียนพิเศษแบบออนไลน์ที่เรียนกับหน้าจอ เลยเป็นช่วงที่จะเรียนกับครูกับเพื่อนๆ กลุ่มเล็ก ก็เรียนพิเศษกันแทบทุกวันเลย เรียนตอนเย็นหลังจากที่โรงเรียน แล้วก็จะซื้อหนังสือรวมข้อสอบย้อนหลัง มาลองนั่งทำค่ะ จะเริ่มทำเรื่องที่ทำเป็น ณ ตอนนั้นก่อน ตั้งเป้าหมายไว้ว่าทำทุกหัวค่ำ หลังจากทำการบ้านเสร็จ ทำวันละ 2 ข้อเป็นอย่างน้อย

พอ ม.5 ก็เริ่มลองเรียนพิเศษออนไลน์กับคอมดู ตอนแรกไม่ไปเรียนเพราะคิดว่าเราจะรู้เรื่องเท่ากับที่ครูมาสอนเราต่อหน้าหรอ แต่พอไปเรียนจริงๆ แล้ว ดีเลยค่ะ ชอบมากๆๆ แต่ตัวเราต้องอดทนและตั้งใจเรียนด้วยนะคะ เพื่ออนาคตที่สวยงามและสมหวังของน้องๆ

โดยการเรียนจะลงเรียนวิชาที่ตัวเองรู้สึกว่าไม่ค่อยถนัดเช่น ฟิสิกส์ และเคมีก่อน หลังจากนั้นจะลงชีวะ คณิต ตามมา ตอนนั้นเริ่มเรียนวิชาชีวะที่ออนดีมานด์ ชอบเรียนกับพี่วิเวียนมากๆ ทำให้ตั้งแต่ช่วง ม.5 เป็นต้นไปเลือกที่จะเรียนออนไลน์ทั้งหมด ตอนเย็นก็กลับบ้านทำโจทย์ ทบทวนเนื้อหาที่เรียนไป พอไปโรงเรียน ว่างตอนไหนก็จะเอาหนังสือไปทวน ไปทำโจทย์ แต่ละวันก็หยิบวิชานู่นวิชานี่ไปค่ะ สลับกันๆ

ช่วง ม.6 เวลาว่างก็จะเยอะหน่อย เพราะโรงเรียนให้เตรียมตัวสอบและอ่านหนังสือ ก็จะเก็บวิชาจำก่อนคือไทย สังคมค่ะ อ่านไปก่อน พอช่วงใกล้สอบก็อ่านอีกทีค่ะ จะได้จำได้ดี ละตามด้วยฟิสิกส์ เคมี คณิต ชีวะค่ะ ส่วนอังกฤษนั้นแทบไม่เรียนเลยค่ะ อ่านเองหมดเลย ซื้อหนังสือมาอ่านค่ะ เพราะส่วนตัวมีพื้นฐานภาษาอังกฤษค่อนข้างดี แต่ถ้าอยากเรียนเพิ่มอาจเลือกลองไปเรียนออนไลน์ก่อน ที่มีให้ลองเรียนฟรีดู มีหลายสถาบันให้เลือกมากเลย เรื่องสอบ คือลงสอบทุกอย่างทุกตัวที่เกี่ยวกับสายวิทย์สุขภาพค่ะ คิดว่าทำให้คะแนนดีไว้ก่อน เดี๋ยวก็ได้มีโอกาสเลือกคณะที่อยากเรียนและสอบติดค่ะ

4. ลงเรียนพิเศษอะไรที่ไหนบ้าง แนะนำที่เรียนพิเศษให้น้องๆ หน่อยค่ะ

“พี่ปั้นแป้งลงเรียนพิเศษหลายที่อยู่นะ เลือกที่เหมาะกับตัวเองเลย”

เรียนคณิตศาสตร์ที่ we by the brain ค่ะ พี่เป็นคนไม่ได้หัวไวกับคณิตขนาดนั้น เลยว่าที่นี่เหมาะมากๆ สอนตั้งแต่พื้นฐานยันข้อสอบยากๆ และชั่วโมงเรียนกำลังดีเลยค่ะ ถึงจะเริ่มสอนตั้งแต่พื้นฐานแต่เนื้อหาค่อนข้างกระชับ

สำหรับชีวะ และฟิสิกส์เรียนที่ Ondemand เพราะชอบเรียนกับพี่วิเวียนมาก เรียนแล้วสนุก ไม่ง่วง มีเคล็ดลับดีๆ มาสอน ให้ช่วยจำเนื้อหาได้

ส่วนฟิสิกส์ก็ชอบพี่โหน่งกับพี่เต้ยมากๆ สอนดีเลยค่ะ ชอบเหมือนกัน และชอบที่สุดตอนพี่โหน่งเล่าเรื่องสามก๊กค่ะ และพี่เต้ยคือตลกมาก ไม่ง่วงเลยค่ะ ทั้งชีวะและฟิสิกส์ ลงทั้งเนื้อหาบทเล็กที่เรียนในม.ปลาย กับลงเนื้อหาคอร์สเอ็นค่ะ
เรียนเคมีที่อ.อุ๊ค่ะ เพื่อนๆ ลงก็เลยลองเรียนดู โอเคเลยค่ะสำหรับเคมี

5. ช่วงที่สอบ ใช้แอพพลิเคชั่นอะไร เป็นตัวช่วยในการเตรียมสอบบ้าง

“แฟนคลับ TCASter ตัวจริงเสียงจริงมาแล้ว”

ใช้เฉพาะ TCASter เลยค่ะ รู้สึกว่าครบวงจรมากๆ หนึ่งแอพพลิเคชั่นทำให้เราได้รู้ทุกอย่างเลยค่ะ เราเลือกคณะที่เราอยากเรียนไป ก็จะมีว่ารับรอบไหนบ้าง ต้องใช้คะแนนอะไรบ้าง และมีว่าสอบ gatpat onet 9วิชาสามัญ วันไหนบ้าง ประกาศคะแนนวันไหน มีระบบคำนวณคะแนนให้ด้วยค่ะ สำหรับเพื่อนๆที่จะยื่นรอบ 2 , 3 หรือ 4 ทำให้เรารู้ช่วงคะแนนของเรา และประเมินคณะหรือสาขาที่เราจะยื่นได้ง่ายขึ้น และตัวแอพเองก็ใช้ง่ายมาก

6. ระหว่างทางการเตรียมตัวสอบ ช่วงเวลาไหนที่ผ่านมายากที่สุด เจออุปสรรคอะไรบ้าง

“ยากที่สุดคือม.6 โรงเรียนก็กดดัน ครอบครัวก็คาดหวัง”

อุปสรรคที่เจอคือแผนที่เราวางไว้ไม่ได้เป็นไปตามคาดหมายในทุกๆ จุด เพราะว่าตัวเองเป็นคนที่อ่านอะไรก็จะอ่านช้ามาก ทวนก็ช้า เหมือนไม่ได้เป็นคนหัวไวขนาดนั้น เลยล่าช้าไปบ้าง ยากที่สุดคือตอน ม.6 นี่แหละ เรียนหนังสือที่โรงเรียน ไหนจะมีการบ้าน รายงาน กิจกรรมที่โรงเรียน อ่านหนังสือก็ต้องอ่าน ไปเรียนคอร์สสอบเข้าทั้งวันธรรมดาตอนค่ำ จนวันเสาร์อาทิตย์ก็ไปเรียน

และที่ยากไปกว่านั้นคือความกดดันและความคาดหวังจากครอบครัว ในบางครอบครัวพ่อแม่และญาติๆ อาจจะไม่ได้บังคับหรือเคร่งในคณะหรือสาขาที่ลูกอยากเข้า แต่อย่างของพี่ ผู้ปกครองและญาติบางท่านก็คาดหวังจะเรียนหมอ แต่พี่รู้สึกว่าเราควรจะเรียนในสิ่งที่เรารักและชอบไม่ใช่หรือ แล้วเราจะมีความสุขกับการเรียน ทำงานในอนาคต ก็ใช้เวลาสักพักค่ะกว่าผู้ปกครองจะเข้าใจ

7. คิดว่าส่วนสำคัญที่ทำให้เราผ่านการคัดเลือกคืออะไร?

“พี่ปั่นแป้งโดดเด่นไปด้วยความสามารถรอบด้าน”

พี่เข้ารอบ Portfolio ผลงานที่คิดว่าโดดเด่นที่สุดคือ การเป็น MC ภาคภาษาอังกฤษ ได้ต้อนรับคณะบุคลากรที่มาจากสถาบันหนึ่งที่มาจากมาเลเซียค่ะ ตอนนั้นเป็นนักเรียนคนเดียวที่อยู่ในห้องประชุม การประชุมเป็นทางการมากๆ คณะเค้ามาดูระบบการเรียน การจัดการสอนของโรงเรียน และอีกหนึ่งผลงานที่คิดว่าโดดเด่นเหมือนกันคือไปแข่งขันโครงงานคอมพิวเตอร์ ตอนนั้นทำเรื่อง “ระบบสวิตช์ไฟฟ้าควบคุมด้วยเสียงผ่านแอพพลิเคชั่น”

ได้รางวัลชนะเลิศในการแข่งโครงงานกันเองภายรุ่นของพี่ในโรงเรียนประเภทโครงงานคอมพิวเตอร์ และได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ในการแข่งขันโครงงานคอมพิวเตอร์ในเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขตที่ 16 และไปเป็นตัวแทนของโรงเรียนในกิจกรรม EDU Digital 2018 ที่จัดขึ้นที่โรงแรมหาดแก้วรีสอร์ท จังหวัดสงขลาค่ะ ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ก็ทำอยู่เรื่อยๆ เลยค่ะ

8. การสัมภาษณ์รอบพอร์ตเป็นอย่างไรบ้าง?

“เตรียมตัวไปสัมภาษณ์ไปพอสมควรนะ อาจารย์จะชวนคุยและเน้นถามคณะที่เราอยากเข้า”

วันนั้นที่ไปสัมภาษณ์ก็ตื่นเต้นค่ะ ก่อนจะไปนั้นก็มีเตรียมตัวไว้บ้าง ลองหาในเน็ตว่าคำถามที่สัมภาษณ์จะถามอะไร ประมาณไหนบ้าง เพื่อที่ตอนอาจารย์ถามเราจะได้เรียบเรียงคำพูดได้ดีขึ้น ดูมีความมั่นใจ ไม่ตะกุกตะกัก หาด้วยว่าสาขาวิชาที่เราจะเรียนนั้น ทำอะไรได้บ้าง อย่างของพี่เทคนิคการแพทย์ ไม่ได้มีแค่ตรวจสารคัดหลั่งเช่น น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ และปัสสาวะเป็นต้นอย่างเดียว ยังมีส่องกล้องจุลทรรศน์ดูเชื้อโรค แบคทีเรีย พวกพยาธิต่างๆ และมีเพาะแบคทีเรีย ตรวจแบคทีเรียที่ปนเปื้อน และมีการตรวจหมู่เลือด ตรวจการติดเชื้อต่างๆ

วันสัมภาษณ์ของพี่ อาจารย์ก็เหมือนไปชวนคุยมากกว่า โดยอาจารย์ให้แนะนำตัวเป็นภาษาไทยก่อน พอเปิดพอร์ทพี่ อาจารย์ก็รู้ว่าถนัดภาษาอังกฤษ อาจารย์เลยให้แนะนำตัวภาษาอังกฤษ แล้วก็ดูผลงานและกิจกรรมที่เราได้ทำมา สงสัยกิจกรรมอะไรอาจารย์ก็จะถามค่ะ แล้วก็จะมีถามพวกสายอาชีพด้วยเหมือนที่พี่บอกว่าทำอะไรบ้างอาชีพนี้ ทำไมถึงอยากเข้าเรียนสายนี้ และคิดว่าเรียนไหวไหม กลัวเลือดไหม อาจารย์ก็ถามค่ะ

9. การใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นอย่างไรบ้าง

“บรรยากาศอบอุ่น แต่การเรียนก็เอาเรื่องอยู่ ต้องรับผิดชอบตัวเองให้ดี”

ตอนนี้พี่เพิ่งไปมหาลัยได้ประมาณ 3 อาทิตย์ แต่ก่อนหน้านั้นไปกิจกรรมเปิดบ้านสานสัมพันธ์ค่ะ เหมือนไปทำกิจกรรมด้วยกัน ได้รู้จักเพื่อนๆและพี่ๆ ในคณะ พอเปิดมหาลัยเลยสนิทกับเพื่อนๆ ในขึ้นนิดนึงแล้ว

ส่วนการเรียนนั้นมีความต่างจากในมัธยมพอควร ไม่มีการเข้าแถวตอนเช้าด้วย เราต้องรับผิดชอบตัวเองล้วนๆ บางวันอาจารย์ก็นัดชดเสาร์อาทิตย์ก็ต้องไปเรียน บางทีคลาสเรียนนึงก็เรียนเป็นร้อยคนเลย บางส่วนที่ไม่เข้าใจก็ต้องหาเวลาไปนั่งทวน ไปทำความเข้าใจด้วยตัวเอง และที่มหาลัยพี่ไม่ได้เรียนห้องประจำ เดินไปเรียนหลายตึกในมหาลัยเลย

ส่วนของกินก็มีเยอะมาก มีร้านอาหารในทุกๆ คณะเลย พวกร้านข้าว ของหวาน ของคาวก็อยู่รอบมหาลัยเยอะมากเลย แล้วโชคดีมากที่เจอเพื่อนที่คณะน่ารักทุกคนเลย เพื่อนที่คณะที่สนิทก็น่ารัก ไปเรียนได้อาทิตย์สองอาทิตย์ก็สนิทกันแล้ว แล้วคณะของพี่เป็นคณะเล็กๆ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องต่างก็รู้จักกันหมดเลยย พี่ๆ ก็น่ารักมาก เป็นมิตร และเข้าใจน้องๆ

10. มองอาชีพหลังเรียนจบไว้อย่างไรบ้าง

“เป็นนักเทคนิคการแพทย์เต็มตัว”

อาชีพหลังเรียนจบนั้น พี่คิดว่าจะทำงานเป็นนักเทคนิคการแพทย์ที่โรงพยาบาลรัฐไม่ก็ที่โรงพยาบาลเอกชนค่ะ หรืออาจจะลงทุนเปิดเป็นแล็บของตัวเองในเขตพื้นที่ที่นักเทคนิคการแพทย์ยังไม่เข้าไม่ถึง หรือในพวกชุมชนค่ะ

11. อยากฝากอะไรถึงน้องๆ มัธยมที่กำลังอยากเข้าคณะเทคนิคการแพทย์บ้าง

“จงเลือกในสิ่งที่รัก และรับผิดชอบต่อความฝันของตน”

อยากจะบอกน้องๆ ทุกคนว่าอดทนหน่อยนะคะกับการสอบเข้ามหาลัย เพื่ออนาคตที่สวยงามของตัวน้องเอง และอย่าลืมทำในสิ่งที่เราชอบและรัก ไม่มีอะไรที่เราจะทำไม่ได้ ถ้าเราพยายาม และที่สำคัญห้ามประมาท !! อย่าคิดว่ายังเหลืออีกหลายวัน พี่อยากให้น้องทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ให้เต็มที่ที่สุด ใช้เวลาแต่ละวันแต่ละนาทีที่มีให้คุ้มค่า สู้ๆ ค่ะ

ตัวอย่าง Portfolio พี่ปั้นแป้ง

ไม่รู้จะเริ่มต้นทำพอร์ตฟอลิโอยังไง ลงเรียนกับพี่น็อตทำพอร์ตเป็นสเต็ป ตั้งอยู่บนหลักการที่ถูกต้อง สมัครเรียนที่นี่เลย