รีวิวการเตรียมตัวสอบภาษาอังกฤษให้ฟาดทั้ง GAT, Onet สามัญ แบบชิวๆ
รวม 5 เคล็ดลับที่จะช่วยให้น้อง ๆ ทำข้อสอบภาษาอังกฤษได้อย่างง่ายดาย
น้อง ๆ หลายคนที่กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย คงหนีไม่พ้นวิชาภาษาอังกฤษที่คอยตามหลอกตามหลอนเรา ทั้ง GAT, Onet, ไปจนถึง 9 วิชาสามัญ วันนี้จึงมาแชร์กันว่าทำยังไงให้อุดจุดอ่อนเหล่านี้ได้
ขอออกตัวก่อนว่าพี่เคยอ่อนภาษาอังกฤษมากๆเลยจริงๆ และไม่ชอบเรียนพิเศษหรือติวอะไรทั้งสิ้น ดังนั้นวิธีที่จะแชร์สามารถใช้ได้เลยแม้ไม่ได้เรียนกวดวิชาก็ตาม
1.ทำความเข้าใจกับข้อสอบแต่ละรูปแบบ
เพราะทั้ง Onet, GAT หรือ 9 วิชาสามัญมีรูปแบบแตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจนดังนี้
Onet (80 ข้อ ข้อละ 1.25 คะแนน รวม 100 คะแนน)
แบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ดังนี้
Part 1 : Use and Usage = ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน มีเติมคำ มี Error รวม ๆ ประมาณ 35 ข้อ
Part 2 : Writing Ability = วัดทักษะการเขียนนั่นคือวัดไวยากรณ์ที่ต้องเป๊ะมาก ๆ มีประมาณ 10 ข้อ
Part 3 : Reading Ability = จะวัดการอ่าน รวมไปถึงคำศัพท์ที่ใช้ในการอ่านด้วย 35 ข้อ
ตัวอย่างข้อสอบ Onet คลิกเลย
GAT (60 ข้อ ข้อละ 2.5 คะแนน รวม 150 คะแนน)
แบ่งเป็น 4 ส่วน ส่วนละ 15 ข้อ ดังนี้
Part 1 : Expression = เลือกคำตอบให้ตรงกับสถานการณ์
Part 2 :Vocabulary = วัดคำศัพท์ ทั้งการนำไปใช้ในบริบทต่างๆ กับการวัดเรื่องความหมายเหมือน
Part 3: Reading = มีบทความให้อ่านประมาณ 4 บทความและตอบคำถาม
Part 4: Structure and writing = มีทั้ง Error เติมประโยค และการเรียงลำดับ Paragraph
ตัวอย่างข้อสอบ GAT คลิก
วิชาสามัญ (80 ข้อ ข้อละ 1.25 คะแนน รวม 100 คะแนน)
Part 1: Listening and Speaking = มีลักษณะเป็นบทสนทนาที่แสนจะยืดยาวกว่า GAT เยอะอยู่ 20 ข้อ
Part 2:Reading = อ่านบทความหลายแบบ เช่น โฆษณา ประกาศ จดหมาย ข่าว เป็นต้น 40 ข้อ
Part 3 : Writing = วัดไวยากรณ์รูปแบบหลากหลายแล้วแต่ปี
ตัวอย่างข้อสอบวิชาสามัญ
โดยทั้ง 3 ข้อสอบจะมีจุดร่วมกันอยู่คือทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน ให้เรียงลำดับว่าเราอ่อนอะไรที่สุดแล้วค่อยเริ่มลุยจากอันที่อ่อนก่อน
2. หาดูคลิปติวตาม Event ของติวเตอร์ต่างๆ ใน Youtube
หากเราเป็นคนที่ไม่ชอบหรือในห้องเรียนพิเศษ เดี๋ยวนี้ติวเตอร์ชื่อดังเจ้าต่างๆ ชอบออก Event สอนติว ซึ่งเนื้อหาใจความจริงๆ ก็คล้ายคลึงกับที่เค้าสอนในคลาสนั่นแหละ ลองตั้งใจเรียนดูได้ ส่วนใหญ่ใต้คลิปจะมีให้โหลดชีสด้วยนะ
คลิปติววิชาสามัญ + GAT กับครูสมศรี
คลิปติวภาษาอังกฤษ พี่ลูกกอล์ฟ
คลิปติวจากครูพี่แนน Enconcept
3. ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันมาก ๆ
มากกว่าการติวแล้วจบในห้องเรียน หรือเรียนพิเศษแล้ว เคยไหมที่สุดท้ายก็ยังลืมอยู่ดี เพราะเราไม่เคยใช้มันอย่างจริงจัง ดังนั้นจึงควรฝึกทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษจากแหล่งรอบตัวได้
ฝึกฟัง : จากการดูหนังภาษาอังกฤษล้วน ๆ แบบไม่ต้องมี Sub ไทยนะ
ฝึกพูด : ลองหาเพื่อนที่เป็นชาวต่างชาติ และฝึกพูดคุยสนทนากัน
ฝึกอ่าน : ลองหานิยาย การ์ตูน หรือข่าวหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ แล้วฝึกเพื่อจะได้มีทักษะเดาบริบทได้
ฝึกเขียน : เรื่องนี้ยังดูไกลตัวน้อง ๆ นิสนึง แต่ลองเขียนเรียงความในชีวิตประจำวัน แล้วหาผู้เชี่ยวชาญตรวจให้ แล้วจะแม่นเรื่องการทำข้อสอบ Error มากขึ้นไปอี้ก
4. เรียนรู้ศัพท์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ
ส่วนใหญ่ภาษาอังกฤษที่จะพังๆกัน ก็ตรงที่แปลศัพท์ไม่ออกนี่แหละ วันนี้เลยมีแหล่งศัพท์ดีๆมากมายมามอบให้นะ การท่องศัพท์ที่ดีไม่ใช่จำแค่แปลว่าอะไร แต่ต้องรู้ด้วยว่าศัพท์เหล่านั้นทำหน้าที่อะไรในประโยค จะช่วยทำให้ได้ศัพท์และไวยากรณ์ไปพร้อม ๆ กัน
คำศัพท์จากสทศที่ออกเยอะ
คำศัพท์ 4 หน้าจากครูสมศรี
5. ฝึกทำข้อสอบมาก ๆ ช่วยได้ดีที่สุด
ที่จะทำให้เราคะแนนดีหรือไม่ดี อยู่ที่ว่าทำข้อสอบ ได้หรือไม่ได้ ถ้าไม่ลองฝึกทำแล้วจะทำได้อย่างไร ดังนั้นต้องหมั่นหาโจทย์มาทำอย่างสม่ำเสมอ ควรเริ่มต้นคิดเองมากกว่าไปเปิดดูเฉลยที่เค้ามีให้
Link รวมข้อสอบภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ
ตอนสมัยนั้นก่อนที่จะทำตามขึ้นตอนนี้ คะแนน GAT ภาษาอังกฤษรอบแรกที่สอบอยู่ที่ 30/150 ต่ำเตี้ยมากเลย แต่หลังจากฝึกตามสเต็ปที่บอกคะแนนก็ดีขึ้นเป็น 77.5/150 ถึงแม้จะไม่เยอะมากขนาดนั้นแต่มันก็ดีขึ้นมากอยู่นะ ถึงแม้เด็กๆ รุ่นนี้จะมีสอบแค่ครั้งเดียว แต่เชื่อว่าถ้าหมั่นฝึกฝน จะดีมากแน่ๆ
ขอให้ #dek62 ทุกคนโชคดี
TCASter